เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 18 ก.ย. ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าโผบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับชั้นนายพลว่า ขณะนี้อยู่ในกระบวนการและจบลงด้วยดีทุกอย่าง เราได้พูดคุยกันทุกเหล่าทัพ กับฝ่ายการเมืองที่เข้ามา โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานที่อยากให้กองทัพเดินไปข้างหน้า ไม่มีการตัดสินใจใดที่จะสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่การตัดสินใจครั้งนี้ สามารถทำให้เหล่าทัพต่างๆ เดินหน้าไปได้ และเราสามารถทำงานให้กับประเทศชาติได้ คาดว่าประมาณสิ้นสัปดาห์นี้ น่าจะเสร็จกระบวนการทุกอย่าง 

เมื่อถามว่าข้อกังวลต่างๆ จบลงด้วยดีหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเชื่อว่าทหารมีระเบียบวินัย หลังจากที่ผู้บังคับบัญชาและส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้พิจารณาพูดคุยกันจบแล้ว ทุกอย่างจบไม่มีปัญหา 

เมื่อถามย้ำว่าได้เซ็นโผทหารเพื่อนำส่งให้กับนายกรัฐมนตรีแล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนในฐานะ รมว.กลาโหมก็ต้องเซ็นชื่อ เพื่อส่งไปให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ก่อนจะเสนอนายกฯ เพื่อลงนามและทูลเกล้าฯ ต่อไป 

“ยืนยันได้ว่าเป็นการตัดสินใจของผู้นำเหล่าทัพและคิดว่าเป็นความเหมาะสมที่ดีที่สุด ทำอย่างเต็มที่แล้ว ผมเชื่อว่าทุกฝ่ายสบายใจ ทหารมีหน้าที่ทำตามสิ่งที่พิจารณา คำสั่งออกมาอย่างไรก็เดินไปอย่างนั้น” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการแต่งตั้งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า หากมีความเข้าใจในเหตุการณ์ของช่วงเดือน ก.ย. ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่มีการโยกย้ายกำลังพลและข้าราชการที่จะต้องเกษียณไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจและพลเรือนมีระบบอยู่แล้ว ก็ให้ระบบนั้นพัฒนาไป  ในฐานะที่ตนเป็นผู้บริหารหากเกิดปัญหาก็จะต้องเข้าไปดูแล  แต่ก็ต้องให้เกียรติเหล่าทัพ รวมถึงปลัดกระทรวงต่างๆ เพราะเขาอยู่มาก่อน ขณะที่เราก็ไปดูในเรื่องของความเหมาะสม ว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นไปตามกฎเกณฑ์กติกาหรือไม่ 

เมื่อถามอีกว่า สมช.ถูกมองว่าเป็นจุดอ่อนในเรื่องของความมั่นคงรัฐบาลพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ต้องถามว่าใครรู้สึกอ่อนหรือรู้สึกแข็ง ถือเป็นจินตนาการของแต่ละคน แต่ตนคิดว่าทุกฝ่ายทำหน้าที่ได้อย่างดี และเชื่อมั่นว่าผู้นำหน่วยสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ 

เมื่อถามด้วยว่า เลขาฯ สมช.ไม่จำเป็นที่จะต้องมาจากทหาร ตำรวจ เป็นพลเรือนได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญ ให้โอกาสทุกส่วน ให้ความเสมอภาคกันอยู่แล้ว แต่หน่วยงานต้องดูความเหมาะสมของ กำลังพลที่เกี่ยวข้องรวมถึงภารกิจ ส่วนมีตั๋วจากฝ่ายการเมืองหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ว่ากันไป ตนเพิ่งเข้ามาจะไปเจอตั๋วที่ไหน ไม่มี ส่วนที่ผ่านมารัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะใช้บริการ เลขาฯ สมช. เป็นตำรวจ นายภูมิธรรม กล่าวว่า  ไม่จำเป็น ตนก็ว่าไปตามความเป็นจริง.