มูฮัมหมัด อุสมานมูซา ยกระดับตัวเองมาเป็นคนสำคัญของทีมฟุตซอลทีมชาติไทย

2 นัดแรก ในฟุตซอลโลก 2024 เขายิงไปแล้ว 3 ประตู และได้นักเตะยอดเยี่ยม ในเกมชนะคิวบา 10-5

มิเกล โรดริโก โค้ชทีมชาติไทย ยกย่องว่า เจ้าเหม็ด ไม่ใช่นักเตะธรรมดา ไม่ได้หาได้โดยทั่วไปในไทย เป็นของขวัญของทีมไทย ที่เขามอบสิ่งพิเศษให้

“ตอนนี้ทีมไทยกำลังสร้างทีม โดยมี มูฮัมหมัดเป็นแกนกลาง และเขาสามารถทำสิ่งที่พิเศษได้”

ขณะที่ฟีฟ่า ก็ลงบทความชื่นชมความสามารถของ มูฮัมหมัด

สำหรับ เจ้าเหม็ด มูฮัมหมัด อุสมานมูซา ปัจจุบันอายุ 26 ปี เจ้าของความสูง 180 เซนติเมตร เรียกว่าพอบดกับไซซ์บิ๊กไหว

เพิ่งถูก จิมบี คาร์ตาเกนา แชมป์สเปน ดึงตัวร่วมทัพ

คุณพ่อเป็นชาวกานา แต่เสียชีวิตตั้งแต่เขายังเด็ก ส่วนคุณแม่คนไทยไปทำงานต่างประเทศ ตัวของ มูฮัมหมัด ไปอยู่กับคุณยายตั้งแต่เด็ก เป็นครอบครัวใหญ่

ไม่ได้ไปแวะไปเล่นฟุตบอลก่อนเลย มุ่งมาที่ฟุตซอลตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ข้างถนน หลังสุเหร่า แล้วมาเริ่มจริงจังตอนเข้า โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร เพราะเริ่มมองว่า เป็นใบเบิกทางให้เรียนฟรีได้ ในโครงการช้างเผือก

ลงเล่นแบบแบกอายุ ทั้ง กทม.ลีก, สพฐ.ลีก การเรียนไม่ค่อยดี ตามประสานักกีฬา ติด 0 ติด ร. เยอะ ยายอยากให้ไปอยู่โรงเรียนประจำ ให้มุ่งไปทางกีฬาเลย พอจบ ม.3 เลยไปคัดเข้า โรงเรียนราชวินิตบางเขน

ควบคู่กับการเล่นกีฬา การเรียนก็ต้องเอาให้ผ่าน อาจารย์ตั้งกฎจะมาเหลวไหลไม่ได้ อย่าเอาการเป็นนักกีฬามาอ้าง อย่างน้อยต้องทำงาน ทำการบ้านส่ง ไม่งั้นก็ไม่รู้จะดันยังไง

จนเรียนจบมัธยมต้น แล้วจบปริญญาตรี ที่คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มูฮัมหมัด บอกว่า เขาจบมาได้เพราะฟุตซอล ตั้งแต่เรียน ม.ต้น, ม.ปลาย, ปริญญาตรี ไม่เคยเสียค่าเทอมเลย

และที่สำคัญ ฟุตซอล คือสิ่งที่รัก เขาเชื่อว่าสามารถเลี้ยงชีพด้วยฟุตซอลได้

เส้นทางสู่นักฟุตซอลอาชีพ เริ่มจากสมัยเรียน ม.ปลาย การลงแข่ง กทม.ฟุตซอลลีก รอบชิงชนะเลิศ แล้วมี ประธานแบงค็อก บีทีเอส มาดู ซึ่งนัดนั้นยิงไป 5 ลูก ได้ดาวซัลโว พออีกวัน บีทีเอส ก็ยื่นสัญญานักเตะอาชีพให้ ตอนเขาอยู่ประมาณ ม.5 เทอม 2 หรือ ม.6 เทอม 1 ราวๆ นี้

จากหัวกะทินักเรียนมาเล่นอาชีพ แน่นอนต้องค่อยๆ ไต่เต้า จากลงนัดละ 3-4 นาที ก็ค่อยๆ ได้โอกาสมากขึ้น

จนติดทีมชาติครั้งแรก ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนที่ไทย ปี 2559 ซึ่งชุดนั้นใช้สายเลือดใหม่ เพราะรุ่นใหญ่เพิ่งไปแข่งฟุตซอลโลกมา จากนั้นก็ติดทีมชาติไทยชุด 20 ปี ที่มี มิเกล โรดริโก เป็นโค้ช

ตัวเขามี “อาร์ม” ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง เป็นไอดอล สมัยเด็ก ไปดูฟุตซอลลีกที่ เดอะมอลล์บางแค ธอส.อาร์แบค (บลูเวฟ) เจอ การท่าเรือ นัดนั้น พี่อาร์ม ยิง 3 ในตำแหน่งหน้าเป้าใหม่ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใหม่ในตอนนั้น อาจารย์บอกให้ดูคนนี้เล่น เพราะมีสไตล์คล้ายกัน

ฟุตซอลอาเซียน ยังไม่ได้ร่วมทีมกับฮีโร่ของเขา มาได้เจอกันในซีเกมส์ ที่มาเลเซีย

เส้นทางฟุตซอลอาชีพ เล่น แบงค็อก บีทีเอส, การท่าเรือ, ชลบุรี บลูเวฟ, แบล็คเพิร์ล แล้วมีข้อเสนอจาก สเปน ทีมกอร์โดบา เขาตัดสินใจไปทันที เพราะเป็นความฝันแต่เด็ก ที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นจริง

ไปก็แทบจะสู้คนเดียว ไม่มีล่าม 2 เดือนแรก มีแฟนไปอยู่เป็นเพื่อน แต่จากนั้นก็อยู่คนเดียว

หนักแน่นอน ต้องปรับตัวทุกอย่าง แต่พยายามคิดบวก จนได้โอกาสมากขึ้นเรื่อยๆ เล่นเข้าตาทีมใหญ่ จิมบี ดึงร่วมทัพ

ทุกวันนี้ ฟุตซอลทำให้เขาเป็นแกนหลักครอบครัวได้ กับการมีภรรยา กับลูกอีก 1 คน และกำลังจะตามมาอีก 1 คน

เขายังเชื่อว่าเส้นทางของเขาจะไปได้อีก ยังไม่สุดแค่นี้ ชีวิตต้องดีกว่านี้

ความใจสู้คือจุดเด่น สิ่งที่ท่องไว้คือ “ไม่ท้อ” จนพาตัวเองมาถึงการเป็นยอดฟุตซอลไทย ที่กำลังสืบสานเป็นแกนหลักรับช่วงต่อจากรุ่นพี่

รวมทั้งเดินหน้าในเส้นทางฟุตซอลอาชีพต่อไป.

*** วุฒินล ***