เมื่อเวลา 09.55 น. วันที่ 18 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณีที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เรียกร้องไปยังผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาตรการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เช่น ธนาคารพาณิชย์ ควรออกมารับผิดชอบค่าเสียหายร่วมกับเหยื่อ รวมถึงควรมีระบบหน่วงเงินไม่ให้มีการโอนเงิน ว่า ถือเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่ได้มีการแถลงต่อรัฐสภาแล้ว ที่ธนาคารพาณิชย์ และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) จะต้องมีส่วนรับผิดชอบ

ส่วนข้อสังเกตของนายวิโรจน์ นั้น ตนเข้าใจ โดยศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ หรือ AOC 1441 ของกระทรวง ดีอี ได้ทำงานกับธนาคารแห่งประเทศไทยมาตลอด และมาตรการต่างๆ ที่ออกไปก็มีการกลั่นกรองโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีการหารือและออกมาเป็นมาตรการ ซึ่งมาตรการต่างๆ ส่งผลที่เป็นประโยชน์แล้ว

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ธนาคารพาณิชย์จะมาร่วมรับผิดชอบกับเจ้าของบัญชีเงินฝาก นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้กำลังดำเนินการอยู่และศูนย์ AOC จะมีการประชุมในสัปดาห์นี้ ซึ่งการมีส่วนร่วมสามารถออกแบบให้มีความเหมาะสม และระยะที่มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์ของประชาชนให้มากที่สุด ขอเวลาอีกสักนิด

เมื่อถามถึงข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ให้มีการพัฒนาแอปพลิเคชันทางรัฐ เพื่อจ่ายชดเชยผู้ประสบอุทกภัย มีการวางแผนรองรับแล้วหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า แอปพลิเคชันทางรัฐสามารถรองรับประชาชนที่มาลงทะเบียนได้อยู่แล้ว ตอนนี้ศักยภาพของแอปพลิเคชันรองรับผู้ลงทะเบียนได้กว่า 30 กว่าล้านคน ซึ่งการจ่ายเงินเยียวยาสามารถเชื่อมโยงระบบได้ อาจจะใช้เรื่องพร้อมเพย์เข้ามาช่วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกระทรวงการคลัง

เมื่อถามว่าแอปพลิเคชันทางรัฐจะสามารถใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคตได้หรือไม่ นายประเสริฐ ยอมรับว่า แอปพลิเคชันทางรัฐ เป็น แอปพลิเคชันหลักแต่ต่อไปจะเป็น Super app และหลังจากนี้ก็จะใช้แอปพลิเคชันนี้ในการบริการภาครัฐ ทั้งนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ใช่ครั้งคราว และขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนา

เมื่อถามว่ากระทรวงการคลังได้มีการหารือหรือไม่เกี่ยวกับการพัฒนาแอปพลิเคชัน นายประเสริฐ กล่าวว่า ขอรอความชัดเจนก่อนพร้อมกล่าวว่า การทำให้ระบบเชื่อมโยงกันนั้นไม่ยาก