สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ว่าประชาชนในเขตที่ 6 ของกรุงบูดาเปสต์ ลงคะแนนเสียง ห้ามการเช่าระยะสั้นตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวอาจส่งผลต่อตลาดที่อยู่อาศัย ของจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของทวีปยุโรป
ตัวเลขจากสำนักงานสถิติยุโรป (ยูโนสแตท) ชี้ให้เห็นว่า เฉพาะเมื่อปี 2566 มีการจองที่พักผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง แอร์บีเอ็นบี, บุ๊คกิ้ง, เอ็กซ์พีเดีย และทริปแอดไวเซอร์ เกือบ 719 ล้านคืน ในกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) โดยกรุงปารีสของฝรั่งเศส มีจำนวนผู้เข้าพักสูงสุด มากกว่า 19 ล้านคืน
ในส่วนของภูมิภาคยุโรปกลาง กรุงบูดาเปสต์เป็นเมืองซึ่งได้รับความนิยมสูงสุด สำหรับการเข้าพักระยะสั้น ด้วยสถิติมีผู้เข้าพัก 6.7 ล้านคืน แซงหน้ากรุงเวียนนาของออสเตรีย กรุงปรากของสาธารณรัฐเช็ก กรุงวอร์ซอ และเมืองคราคูฟของโปแลนด์ และเมืองแห่งอื่น
ด้านผลการสำรวจซึ่งเผยแพร่บนเว็บไซต์ของสำนักงานเขตบูดาเปสต์ แสดงให้เห็นว่า ผู้ลงคะแนนเสียงร้อยละ 54 สนับสนุนการห้ามเช่า จากผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 20.52 ซึ่งสูงกว่าระดับที่พบในการลงคะแนนโครงการท้องถิ่นอื่น ๆ อย่างมาก
สภาเทศบาลกรุงบูดาเปสต์กล่าวในแถลงการณ์ว่า คะแนนโหวต “เห็นด้วย” ส่วนใหญ่บ่งชี้ว่า ผู้อยู่อาศัยในเขตนี้ให้ความสำคัญกับความสงบสุขในบ้าน มากกว่ารายได้ที่สูญเสียไป
นายทามาส โซโพรนี นายกเทศมนตรีกรุงบูดาเปสต์ กล่าวว่า ผลการลงมติของประชาชน สะท้อนผลกระทบของการเข้าพักระยะสั้น ต่อความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิต ขณะที่ผู้ต่อต้านการห้ามเช่ากล่าวว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวจะกระทบต่อรายได้ ไม่ใช่แค่เฉพาะเจ้าของอพาร์ตเมนต์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงร้านกาแฟและร้านอาหารใกล้เคียง ที่ให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่
ผลการลงคะแนนอาจส่งผลกระทบในวงกว้างขึ้น หลังรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีวิกเตอร์ ออร์บาน กำลังพิจารณาออกกฎระเบียบเกี่ยวกับการเช่าระยะสั้น ซึ่งกระทรวงเศรษฐกิจเคยกล่าวว่า มีส่วนทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนที่อยู่อาศัยและราคาสูง
อนึ่ง เว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ อินกัตลัน กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า อุปทานของอพาร์ตเมนต์ระดับไฮเอนด์ในเขตที่ 6 ของกรุงบูดาเปสต์ เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 3 ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ส่วนราคาลดลงร้อยละ 1 อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงผลจากการลงคะแนนที่ประชาชนคาดหวัง.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES