เมื่อวันที่ 17 ก.ย. เพจเฟซบุ๊ก Social Hunter 2022 ได้แชร์โพสต์ของคุณแม่ลูกอ่อนรายหนึ่ง ที่ได้โพสต์เป็นอุทาหรณ์ให้คุณแม่มือใหม่ ที่เลี้ยงลูกคนเดียว เพื่อจะได้สังเกตลูกน้อย จะได้แก้ปัญหาได้ทันท่วงที

โดยข้อความระบุว่า ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับแม่ๆ เลี้ยงลูกอ่อน

วันนี้จะมาขอฝากเรื่องราวของตัวเองไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับแม่ๆ เลี้ยงลูกอ่อนเพียงลำพัง

เรื่องนี้มันเกิดขึ้นกับแม่เอง เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวและไม่สามารถช่วยอะไรลูกได้ มันคงเป็นตราบาปไปตลอดชีวิตแม่คนหนึ่ง

#เรื่องมีอยู่ว่า แม่ได้เลี้ยงลูกเองเพียงลำพัง อยู่กับลูก 2 คน ส่วนแฟนก็ไปทำงาน วันที่เกิดเหตุ ตอนเช้าน้องตื่นกินข้าว อาบน้ำ เล่นปกติเหมือนทุกวัน ช่วง 15.00 น. น้องก็เล่นกับแม่ปกติตามประสาเด็ก เริ่มเกาะยืน ยิ้ม หัวเราะ เล่นกับแม่ แต่ตอนนั้นมันเริ่มที่จะถึงเวลาทำกับข้าวแล้ว แม่ก็ได้เตรียมของไว้ทำกับข้าวสำหรับตอนเย็น แม่ก็ให้น้องคลานเล่นอยู่บริเวณภายในห้อง 15.30 น. น้องก็เริ่มงอแง ร้องหาแม่ แม่ก็เลยเดินไปล้างมือในห้องน้ำ แล้วน้องก็ร้องตาม แม่ล้างมือไม่เกิน 1 นาที แม่ก็ออกมา น้องก็ร้องจะให้อุ้ม แต่แม่ได้เดินเลยน้องไป น้องก็เกิดการร้องกลั้น กลั้นจนสุดเสียงไม่เกิน 30 วินาที ย้ำ.!! ว่าไม่เกิน 30 วินาที และร้องกลั้นเพียงแค่ครั้งเดียว

ย้ำ.!! ว่า แค่ ครั้ง เดียว.!  (ปกติน้องเป็นคนที่ร้องอ้อนแม่บ่อยอยู่แล้ว และเป็นคนที่ไม่ร้องกลั้น แต่วันนั้นน้องร้องกลั้นเป็นวันแรก) ก็เกิดการเกร็ง และเสียงหาย แม่ก็เลยรีบไปอุ้มน้องขึ้นมาพร้อมกับเขย่าและเรียกชื่อน้องพร้อมกับลูบหลังและโอ๋น้อง แต่น้องก็ไม่ตอบสนองแม่แล้ว ตอนนั้นแม่ช็อกและสั่นไปทั้งตัว พยายามเรียกน้อง แต่น้องก็ไม่มีการตอบสนอง แม่เลยรีบพาน้องไปส่งที่คลินิกหมอที่ใกล้ที่สุด แต่พอไปถึงน้องก็เริ่มปากเขียว มือ เท้า เริ่มซีด และหมอได้ทำการตรวจและถามอาการ พร้อมกับ CPR ตอนนั้นแม่ได้แต่ภาวนาให้น้องกลับมาหาแม่ ร้องเรียกแต่ลูก แต่สุดท้ายน้องก็ไม่กลับมาหาแม่ แล้วน้องก็จากแม่ไปในวัยเพียงแค่ 7 เดือน รวมๆ ระยะเวลาที่น้องเป็นตั้งแต่เริ่มร้องกลั้นจนถึงมือหมอ ไม่เกิน 5 นาที ย้ำ.!! ว่าไม่เกิน 5 นาทีจริงๆ

แต่มันก็ช่วยน้องไม่ได้ ก่อนหน้านี้ไม่มีอาการที่บ่งบอกว่าน้องเป็นอะไร ไม่มีไข้ ไม่ร้องงอแงเหมือนคนไม่สบายตัว เล่นปกติ กินข้าว กินนมได้ปกติ มันเลยทำให้แม่ไม่สามารถรับรู้ได้ว่า มันเป็นเพราะอะไร

มันก็เลยมีคำถามมากมาย ว่าทำไมถึงปล่อยน้องร้อง ทำไมไม่ทำแบบนั้น ไม่ทำอย่างนี้ #วินาทีนั้นแม่เรียกน้องไม่ตอบสนองแล้ว

แม่คิดแค่ว่าต้องพาน้องไปหาหมอให้เร็วที่สุด ทำยังไงก็ได้ ให้ถึงมือหมอ ถึงมือหมอน่าจะปลอดภัยกว่า แต่ลองคิดกลับกัน ถ้าแม่ไม่เลือกที่จะเดินเลยน้องไปและอุ้มน้องขึ้นมา น้องก็คงไม่ต้องจากแม่ไปแบบนี้

เพราะฉะนั้นเลยอยากให้แม่ๆ ที่เลี้ยงลูกอ่อนเพียงลำพัง พยายามสังเกตและดูอาการผิดปกติต่างๆ โดยเฉพาะ #การร้องกลั้นของเด็ก อย่าให้น้องร้องกลั้น ถ้าลูกเริ่มร้องกลั้น หาวิธีเบี่ยงเบนความสนใจ หรืออุ้มลูก หรือโอ๋ลูก หลายคนบอกว่าลูกฉันก็เป็น ร้องกลั้นเหมือนกัน แต่ไม่เห็นเป็นอะไร ทำอย่างงั้นทำอย่างงี้ ครั้งนี้เราอาจจะเอาน้องกลับคืนมาได้ แต่ครั้งหน้าเราไม่รู้ว่าเราจะเอาน้องกลับคืนมาได้ไหม #แต่สำหรับแม่ มันเป็นครั้งเดียวและไม่สามารถเอาน้องกลับคืนมาได้

#ขอบคุณที่อ่านจนจบนะค่ะ