เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)นัดแรก วันที่ 17 ก.ย.นี้ นอกเหนือจากวาระการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีแล้ว จะมีการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการเมืองในตำแหน่งต่างๆรวมถึงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยในส่วนของข้าราชการการเมือง จะมีการเสนอเข้าที่ประชุมพิจารณากว่า 70 เปอร์เซ็นต์ โดยส่วนใหญ่ยังเป็นคนเดิม อาทิ ในส่วนสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ในตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ยังเป็น 3 คนเดิม 1.นายสมคิด เชื้อคง 2.น.ส.ธีราภา ไพโรหกุล และ 3. นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช นอกจากนี้ ยังมีชื่อนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ เลขานุการรมว.คมนาคม(นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) และนายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษารมว.คมนาคม ทั้งนี้ เพื่อให้การทำงานต่อเนื่องและเดินหน้าต่อไปได้มีความราบรื่น โดยที่ผ่านมามีการแบ่งหน้าที่กันชัดเจน
ส่วนตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี 5 คน ส่วนใหญ่ยังเป็นคนเดิม 1.นายชัยเกษม นิติสิริ 2.นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ 3.นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร 4.นายจักรพงษ์ แสงมณี และ 5.เทวัญ ลิปตพัลลภ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองโฆษกประจำสำนักนายกฯนั้นในส่วนของตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกฯ ค่อนข้างชัดเจนแล้ว จะเป็นนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โควตาพรรคเพื่อไทย(พท.) ขณะที่ 3 เก้าอี้รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ โควตาพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ยังเป็นคนเดิมนายคารม พลพรกลาง อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ
ส่วนของโควตาพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) มีชื่อของน.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ อดีตผู้สมัครสส.กทม.พรรครทสช.ขณะที่อีก 1 โควตานั้น ซึ่งเวลานี้แม้ยังไม่มีความชัดเจนจะเป็นโควตาพรรคประชาธิปัตย์หรือกลุ่มร.อ.ธรรมนัส ทั้งนี้ หากเป็นโควตากลุ่มร.อ.ธรรมนัส มีชื่อ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ อดีตผู้สมัครสส.สงขลา พรรคพปชร.มาเป็นรองโฆษกสำนักนายกฯ
อย่างไรก็ตาม การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันที่ 17 ก.ย.ภายหลังที่ประชุมครม.มีมติแต่งตั้งนายจิรายุ เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว จะแถลงข่าวผลการประชุมครม.ทันที
ขณะที่น.ส.ศศิกานต์ เปิดเผยถึงกระแสข่าวมีชื่อจะมาเป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกฯว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ ต้องให้ทางผู้ใหญ่เป็นผู้พิจารณา ซึ่งในวันที่ 17 ก.ย.นี้ ตนก็จะเดินทางเข้าไปรัฐบาลด้วยในฐานะทีมงานของนายพีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรมว.พลังงาน อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาตนได้ช่วยงานของทีมงานนายพีระพันธุ์มาตลอดอยู่แล้ว ส่วนการทำงานในฐานะรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ถ้าตนได้รับตำแหน่งนี้จริงเชื่อว่าศักยภาพของตนก็สามารถทำงานได้.
