เมื่อวันที่ 16 ก.ย. พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.มาโนช จันเที่ยง ผกก.สภ.เพนียด อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี พร้อมกำลังนำตัว นายศุภมร หรือ ป๋านงค์ อายุ 69 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุเข้าไปลักทรัพย์ในร้านขายของชำป้าป๊อก เลขที่ 26 หมู่ที่ 1 ต.วังเพลิง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้ทรัพย์สินเป็นทองรูปพรรณ พระเลี่ยมทอง และเงินสด รวมมูลค่า 820,000 บาท โดยนายศุภมร สารภาพว่า ได้ก่อเหตุร่วมกับนายดอกดิน อายุ 50 ปี แต่นายดอกดิน ได้เสียชีวิตไปแล้ว เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยนายดอกดิน เป็นคนขับรถกระบะที่ใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุและพากันหลบหนี

วันที่เกิดเหตุนายดอกดินได้ขับรถมาส่งนายศุภมร ใกล้กับบ้านหลังดังกล่าวในช่วงหัวค่ำ จากนั้นนายศุภมร ได้ปีนขึ้นทางด้านข้างเข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้าน ขณะที่หน้าบ้านยังเปิดร้านขายของอยู่ จากนั้นเมื่อได้ทรัพย์สินแล้ว ก็เดินลงมาตามช่องทางเดิม และได้หลบหนีไปยังบ้านเช่าใน ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง จากนั้นแบ่งทรัพย์สินกัน โดยในช่วงที่ก่อเหตุในบ้านเช่า กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบว่านายศุภมร เป็นผู้ก่อเหตุ

ต่อมาวันที่ 14 ก.ย. ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่าพบเห็นนายศุภมร ผู้ต้องสงสัยอยู่แถว ต.ป๊อกแป๊ก อ.เสาไห้ จ.สระบุรี จึงประสานกำลังเดินทางเข้าจับกุม นอกจากนี้ทางชุดสืบสวนยังพบว่า ล่าสุดนายศุภมรได้ไปก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ ต.บ้านมะเกลือ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ โดยได้ทรัพย์สินไปหลายรายการมูลค่ารวมประมาณ 4 แสนบาท ซึ่งภายหลังที่ถูกจับกุม โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายศุภมร ถึงสาเหตุที่ลงมือเพราะอะไร นายศุภมร ตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “เป็นเพราะไม่มีกิน” เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พบว่าก่อคดีมาแล้วโชกโชน

ด้านเจ้าของร้านชำ “ป้าป๊อก” ที่ตกเป็นเหยื่อเฒ่าแสบรายนี้ ถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความดีใจ และขอบคุณที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบตัวนายศุภมรได้ เพราะจะได้ไม่ไปก่อคดีสร้างความทุกข์ให้กับชาวบ้านอีก.