เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 16 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) ว่า คณะกรรมการตั้งมานี้เป็นชั่วคราวหรือเป็นคณะกรรมการถาวร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราตั้งไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และในขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานว่า น้ำเริ่มมาทางภาคอีสาน และปริมาณน้ำเริ่มลดลง จังหวัดไหนที่น้ำจะเข้าไป ได้สั่งการให้เตรียมความพร้อมสำหรับการแจ้งเตือนประชาชน ให้สามารถอพยพและเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ทันเวลา ซึ่งเราแจ้งล่วงหน้าไปแล้วหลายวัน โดยจังหวัดที่น้ำท่วมไปแล้วประมาณ 3 วัน ทุกอย่างน่าจะจบลง และการฟื้นฟูเราพยายามทำให้กลับสู่สภาพเดิมโดยเร็วที่สุด 

เมื่อถามต่อว่าการที่น้ำลดลงเกี่ยวข้องกับกรณีประเทศจีนยังไม่ปล่อยน้ำมาทางแม่น้ำโขงเพิ่มใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จีนปล่อยน้ำปกติ ไม่ได้มีส่วนทำให้น้ำท่วมเพิ่มมากขึ้น 

เมื่อถามอีกว่าได้เตรียมความพร้อมในพื้นที่อีสานตอนล่างที่ต้องรับมวลน้ำหลังจากนี้ไว้อย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราแจ้งไปหมดแล้วว่าน้ำจะมาปริมาณเท่าไหร่ และที่ประชุมได้พูดคุยกันว่าปีนี้น้ำไม่ได้จะหนักมาก แต่ก็มีน้ำผ่าน ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้เข้าไปเตรียมพร้อมในพื้นที่แล้ว ไม่ต้องเห็นห่วง ขณะที่พื้นที่กรุงเทพฯ ความสามารถรับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีมากพอ กรุงเทพฯ น้ำก็จะไม่ท่วม 

เมื่อถามว่ากรณีที่ น.ส.แพทองธาร ระบุว่า การเยียวยาให้ยึดความเสียหายมากกว่าจำนวนวัน ต้องปรับมาตรการอย่างไรหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องกรอบการเยียวยา เราต้องมาดูที่รายละเอียดข้างในว่าจะปรับได้อย่างไรบ้าง แต่ประเด็นตอนนี้คือความรวดเร็วในการเยียวยา ที่ประชุมหลายฝ่ายถกกันว่าความรวดเร็วต้องมาก่อน โดยจะยึดกรอบเดิมก่อน เพราะถ้าจะใช้กรอบใหม่ก็ต้องใช้เวลา และในที่ประชุมมีความเห็นว่า จะไม่เก็บค่าน้ำและค่าไฟพื้นที่ประสบภัยในเดือน ก.ย. และในเดือน ต.ค. จะลดลง 30% แต่หากเหตุการณ์น้ำท่วมยาวกว่านั้น เราสามารถขยายได้อีก มาตรการที่ออกมานี้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับการเยียวยาที่เร่งด่วน สำหรับการซ่อมแซมบ้านเรือนได้พูดคุยกับกองทัพ ซึ่งระดมกำลังอย่างเต็มที่ แต่ติดปัญหากำลังพลไม่เพียงพอ ก็จะให้กระทรวงศึกษาฯ ดูเรื่องทีม Fix it Center อาชีวะจิตอาสา ที่มีหลายจังหวัด ให้ระดมพลมาช่วยกัน เพื่อให้ความเสียหายได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด 

เมื่อถามอีกว่าเรื่องการเยียวยาจะน้ำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 17 ก.ย. หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า งบส่วนนี้ไม่ต้องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพราะเราใช้มาตรการเดิม ส่วนที่จะเพิ่มก็ต้องดูว่าจะเพิ่มตรงไหนได้บ้าง เช่นที่ตนยกตัวอย่างเวลา 3 วัน แต่มีความเสียหายมากกว่านั้น จึงต้องดูว่าจะปรับอะไรได้บ้าง 

เมื่อถามด้วยว่า ขณะนี้กรอบเยียวยาอยู่ที่เท่าไหร่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า กรอบเยียวยากรณีบ้านเสียหายทั้งหลัง ยังคงยึดกรอบเดิมคือ 230,000 บาท แต่จะมีการเยียวยาหลายหมวด และมีงบกลางที่เราสำรองไว้สำหรับเรื่องน้ำท่วมโดยเฉพาะแล้ว ส่วนการเยียวยากรณีมีผู้เสียชีวิต จะปรับเปลี่ยนหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อันนั้นต่างหากเดี๋ยวต้องไปดูกรอบอีกที 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังประชุม คอส. น.ส.แพทองธาร ได้รับฟังข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคเหนืองและอีสาน จึงมีความเห็นจะอนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเยียวยาน้ำท่วม จำนวน 3,000 ล้านบาท โดยจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบวันที่ 17 ก.ย. นี้.