สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ว่านายแอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต รมว.ประสานงานเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า โรงงานแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายส่งเสริมความสามารถให้กับประเทศ ในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ การปรับปรุงสวัสดิการสาธารณะ และการใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

“โรงงานแปรรูปแร่นิกเกิลที่ประสบความสำเร็จ ช่วยให้มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ชนิดนี้เพิ่มขึ้นจาก 4,310 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 142,938 ล้านบาท) ในปี 2560 เป็น 34,440 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.1 ล้านล้านบาท) ในปี 2566” เขากล่าว

ทรัพยากรแร่ธาตุที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะนิกเกิล ช่วยให้อินโดนีเซียมีศักยภาพในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า โดยมีกำลังการผลิตประมาณ 210 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ขณะที่โรงหลอมกรดแรงดันสูงจะสามารถแปรรูปแร่นิกเกิล ให้เป็นตะกอนไฮดรอกไซด์ผสม (เอ็มเอชพี) ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และผลิตเอ็มเอชพีให้ประเทศปีละ 120,000 ตัน

ข้อมูล ณ เดือน มิ.ย. 2567 จากกระทรวงการลงทุนของอินโดนีเซีย ระบุว่า การลงทุนในด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์นิกเกิล โดยเฉพาะโรงหลอม และการพัฒนาโรงงานแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ในประเทศทั้งหมดมีมูลค่าสูงถึง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 994,965 ล้านบาท).

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES