นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เปิดเผยว่า ขณะนี้สายการบินต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส มีความต้องการเครื่องบินมาเพิ่มเติมในฝูงบิน เพื่อรองรับการเดินทางของผู้โดยสารที่เริ่มกลับมา และเติบโตต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันเครื่องบินเป็นของที่หายากมาก เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องบิน รวมถึงบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆ ของเครื่องบิน กลับมาเติบโต และมีประสิทธิภาพยังไม่เท่าทันกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เมื่อปี 62 จึงทำให้เกิดปัญหาไม่มีเครื่องบิน ไม่มีอะไหล่ การซ่อมบำรุงต่างๆ จึงมีความล่าช้า กลายเป็นปัญหาใหญ่ในการทำการบินของทุกสายการบิน

นายพุฒิพงศ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส มีเครื่องบินประจำฝูงบิน 23 ลำ ประกอบด้วย เครื่องบินไอพ่นแอร์บัส เอ320 จำนวน 2 ลำ แอร์บัส เอ 319 จำนวน 11 ลำ และเครื่องบินใบพัดเอทีอาร์ 72-600 จำนวน 10 ลำ จากก่อนหน้านี้มีทั้งหมด 40 ลำ ซึ่งได้ทยอยคืนเครื่องบินไปในช่วงเกิดโควิด-19 เช่นเดียวกับสายการบินอื่นๆ เพราะเวลานั้นไม่มีใครทราบว่าโควิด-19 จะเกิดขึ้นอีกยาวนานแค่ไหน จึงจำเป็นต้องลดจำนวนเครื่องบินลงก่อน เพื่อลดต้นทุนในการดำเนินงาน แต่เวลานี้ทุกสายการบินมีความต้องการเครื่องบิน แต่หาเครื่องบินไม่ได้ จึงต้องพยายามเจรจาเร่งรัด และร่วมกันแก้ไขปัญหากับบริษัทผู้ผลิต รวมถึงบริหารจัดการเครื่องบินที่มีอยู่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นายพุฒิพงศ์ กล่าวอีกว่า การขาดแคลนเครื่องบิน ส่งผลให้ภาพรวมการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก แม้จะฟื้นตัวแล้ว แต่ก็ไม่ได้เติบโตรวดเร็ว ซึ่งขณะนี้สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ฟื้นตัวกลับมาประมาณ 75% คาดว่าปี 68 จะกลับมา 100% หรือใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ทั้งนี้ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส อยู่ระหว่างเจรจากับบริษัท แอร์บัส โดยปลายปี 67 จะได้รับเครื่องบินแอร์บัส เอ319 เพิ่มอีก 2 ลำ จะทำให้ฝูงบินของบางกอกแอร์เวย์ส เพิ่มเป็น 25 ลำ สามารถช่วยรองรับการเดินทางของผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้นในเส้นทางต่างๆ โดยเฉพาะเส้นทางสมุย ซึ่งครึ่งปีแรกของปี 67 มีผู้โดยสารเข้า-ออก สนามบินสมุย กว่า 1.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับก่อนเกิดโควิด-19

นายพุฒิพงศ์ กล่าวด้วยว่า เส้นทางสมุย เป็นเส้นทางหลักที่สามารถทำรายได้ให้บางกอกแอร์เวย์ส โดยปัจจุบันสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 70% จากเดิมอยู่ที่ประมาณ 50-60% ซึ่งผู้โดยสารโดยเฉพาะชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาสมุยมาก โดยบริษัทฯ ได้จัดทำแผนรองรับการเติบโตดังกล่าวแล้ว ซึ่งภายในเดือน ก.ย. 67 จะจัดส่งเอกสารรายละเอียดต่างๆ ไปยังสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เพื่อพิจารณาอนุมัติเรื่องการขอเพิ่มเที่ยวบินเข้า-ออก สนามบินสมุย จาก 50 เที่ยวบิน เป็น 73 เที่ยวบินต่อวัน คาดว่าไม่น่ามีปัญหาใด และน่าจะจบภายในปี 67 เพราะผ่านกระบวนการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน

นายพุฒิพงศ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันสนามบินสมุย มีเที่ยวบินให้บริการกว่า 40 เที่ยวบินต่อวัน ยังไม่เต็มขีดความสามารถในการรองรับ เมื่อ กพท. เห็นชอบจะทยอยเพิ่มเที่ยวบิน คงไม่ได้เพิ่มทีเดียว 73 เที่ยวบิน ต้องค่อยๆ เพิ่ม เนื่องจากต้องปรับปรุงสนามบิน รองรับปริมาณผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งอาคารผู้โดยสาร เคาน์เตอร์เช็กอิน สายพานรับสัมภาระ และพื้นที่ใช้สอยโดยรอบ โดยเริ่มดำเนินการแล้ว และคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 70 รองรับผู้โดยสารได้ 6 ล้านคนต่อปี ซึ่งสาเหตุที่การปรับปรุงล่าช้าต้องใช้เวลาหลายปี เนื่องจากต้องทยอยดำเนินการ เพราะไม่สามารถปิดสนามบินปรับปรุงได้ จึงต้องทำทีละส่วน ผู้โดยสารอาจไม่ได้รับความสะดวกบ้าง ทั้งนี้หากสามารถให้บริการครบ 73 เที่ยวบิน คาดว่าจะมีผู้โดยสารเข้า-ออก สนามบินสมุย ประมาณ 4 ล้านคนต่อปี จากปัจจุบันประมาณ 2 ล้านคนต่อปี.