เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ณ ห้องประชุม War room ชั้น 2 อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการจัดงานแสดงนิทรรศการนานาชาติ (SX 2024) กระทรวงมหาดไทย โดยมี นายราชันย์ ซุ้นหั้ว รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รศ.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ ผศ.พิเชฐ โสวิทยสกุล ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การประชุมติดตามความก้าวหน้าการจัดงานแสดงนิทรรศการนานาชาติ “Sustainable Expo” (SX 2024) ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 27 กันยายน-6 ตุลาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ในวันนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าเราชาวมหาดไทยจะช่วยกันทำงานที่จะเกิดประโยชน์กับสังคม ให้เหมาะสมกับงานและสมกับที่เราเป็นหน่วยงานราชการที่ได้รับเกียรติไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงาน ซึ่งทุกท่านได้เห็นภาพรวมและเข้าใจตรงกันว่า เรามีความพร้อมสำหรับการสื่อสารกับสังคม เพื่อให้สังคมได้รับรู้รับทราบในกรอบการทำงานตามพันธกิจในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชน และทำให้ทั้ง 7 ภาคีเครือข่ายได้เชื่อมั่นว่าคนมหาดไทยทุกคนมีความมุ่งมั่นในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน” และทำให้เกิดการ “Change for Good” ให้กับสังคมตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 17 เป้าหมาย (Sustainable Development Goals : SDGs) ที่ผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด ได้ประกาศเจตนารมณ์ “76 จังหวัด 76 คำมั่นสัญญา เพื่อความเท่าเทียม เพื่อความยั่งยืน เพื่อประเทศไทยที่ยั่งยืน” ร่วมกับองค์การสหประชาชาติ (United Nations : UN) ซึ่งการจัดงานแสดงนิทรรศการครั้งนี้ คนมหาดไทยจะได้นำเสนอแนวคิดต่อสาธารณชน ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อสังคมและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่จะมาเป็นภาคีเครือข่ายกับเราอย่างเข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น และจะเป็นผลดีต่อการขับเคลื่อนงานของเราในฐานะข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้อย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการแสดงพลังของชาวมหาดไทยที่ทำงานร่วมกับพี่น้องภาคีเครือข่าย ทั้ง 4 ส่วน คือ ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ทุกกรม และทุกรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ด้วยการร่วมมือกันนำผลงาน มาประมวลรวบรวมมาจัดนิทรรศการภายใต้กรอบเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จึงได้ร่วมกันจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติเพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

“ขอให้ทุกคนตั้งใจทำงานในหน้าที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการประชุมพูดคุยกันเพื่อเป็นภาคีเครือข่าย นำเสนอสิ่งที่ดีให้กับประชาชนที่มางานแสดงนิทรรศการนานาชาติ Sustainable Expo (SX) ทั้ง 10 วัน ใน 5 กิจกรรมหลัก ภายใต้แนวคิด “พอเพียง เพื่อโลก เพื่อเรา” ที่เราต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นแนวทางของการพัฒนาที่ยั่งยืนที่เราได้ร่วมกันทำอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ดังนั้นการจัดงานในปีต่อ ๆ ไป เราทุกคนชาวมหาดไทยก็ต้องสนับสนุนช่วยกัน แม้ว่างานนี้เอกชนจะเป็นเจ้าภาพ แต่เป้าหมายของการจัดงานจะส่งผลดีต่อส่วนรวม ซึ่งเราทุกคนต้องช่วยกันสนับสนุนในการเป็นหุ้นส่วน “Partnership” ที่ดี ต้องช่วยกันถอดบทเรียนของงาน เก็บเอาสิ่งที่ดีมาพัฒนา วางแผน เตรียมการเพื่อนำเสนอความคิด “Sale Idea” ให้กับผู้บังคับบัญชาของเรา เพราะ “ความต่อเนื่องคือความยั่งยืน” ดังหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตาม 4 กระบวนการทำงานสู่ความยั่งยืน ร่วมคิด ร่วมพูดคุย ร่วมทำ ร่วมรับประโยชน์ ซึ่งต้องทำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง เช่นเดียวกันกับงานจัดแสดงนิทรรศการ SX ที่กระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมจัดงานมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว และหากเราทำต่อเนื่องในปีต่อ ๆ ไป จะเป็นไปตามการทำงาน “Routine Job” เพื่อการขับเคลื่อนงาน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ร่วมกับภาคีเครือข่าย ภาคเอกชนและทุกภาคส่วนที่เราต้องยึดมั่นเอาไว้และทำอย่างต่อเนื่อง” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงต้น

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อไปอีกว่า ในส่วนของนิทรรศการที่กระทรวงมหาดไทย จะดำเนินการในปีนี้ มีจำนวน 5 กิจกรรมหลัก ได้เเก่ 1. การเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2. ก้าวสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน 3. Moi War Room 4. Live Action เเละ 5. มหาดไทยปันสุข เเละให้มีการจัดกิจกรรม Talk Stage เเละ Idea Lab สิ่งสำคัญคือการนำเสนอให้เห็นถึงแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ที่กระทรวงมหาดไทยได้ขับเคลื่อนร่วมกับภาคีเครือข่ายแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหลักการทรงงานที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ให้ความสำคัญกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 17 “Partnership” สอดคล้องกับ หลัก “บวร” ดังนั้น นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของกระทรวงมหาดไทย จะนำเสนอให้เห็นถึงเป้าหมายของพระองค์ที่ทรงมีพระราชปณิธานมุ่งมั่นแน่วแน่ในการทำให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งพระองค์มีพระราชกรณียกิจนานัปการ อาทิ ด้านการสงเคราะห์ ด้านการศึกษา ด้านจิตอาสา ด้านความมั่นคงและสามัคคีปรองดอง ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกช่วงวัย ด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงด้านการส่งเสริมวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่ทรง “สืบสาน รักษา และต่อยอด” จากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ดำเนินโครงการฝึกอบรมวิทยากรผู้ถ่ายทอดประวัติศาสตร์ชาติไทยประจำท้องถิ่น “ครู ก” เป็นต้น

“สิ่งสำคัญของการนำเสนอต้องคำนึงถึงความถูกต้องและเหมาะสม ซึ่งการสื่อสารแบบนิทรรศการนั้นไม่จำเป็นต้องเน้นตัวหนังสือ แต่เราต้องนำเสนอแบบรูปภาพที่สวยงามและเข้าใจ ในส่วนข้อมูลสามารถใช้ QR-Code ในการเพิ่มเติม หรือ ขยายรายละเอียด เสมือนเป็น Wikipedia ตลอดจนการจำแนกกลุ่มข้อมูลให้ชัดเจนและครบถ้วน ในส่วนของกิจกรรมตามภารกิจของกระทรวงมหาดไทย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม MOI War room Live Action หรือ “มหาดไทยปันสุข” เราต้องทำให้ประชาชนเห็น “Output” ของภารกิจหรือโครงการที่เราทำนอกจากนี้ ได้สั่งการให้กรมการปกครองพิจารณาออกบูธหน่วยให้บริการประชาชน ทั้งงานทะเบียน งานบัตรประจำตัวประชาชนผ่านระบบดิจิทัล ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน ตลอดจนจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้คนมาร่วมลงทะเบียนและใช้งาน Digital ID “ThaiD” ซึ่งการนำเสนอต้องทำให้คนที่มารับชมได้รู้จักเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน “SDGs” ควบคู่กับความเหมาะสมและสวยงาม จึงขอให้ทุกคนช่วยกันทำในสิ่งที่ดี “Change for Good” ให้เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง เชิญชวนให้ทุกภาคส่วนมาร่วมเป็นภาคเครือข่าย อันจะนำไปสู่การ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน” ช่วยกันทำเพื่อโลกใบเดียวใบนี้ของพวกเรา” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม