เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า สัปดาห์หน้า คาดว่าจะมีการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นรายมาตราต่อรัฐสภา หลังจากที่ได้พิจารณาในรายละเอียดแล้วว่า มีประเด็นที่จะต้องเสนอแก้ไขคู่ขนานไปกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ที่ประกาศไว้เป็นนโยบายต่อรัฐสภาไว้แล้ว สำหรับประเด็นที่จะแก้ไขรายมาตรา เบื้องต้นเป็นเรื่องจริยธรรม การปรับปรุงบทบัญญัติที่กำหนดไว้ในคุณสมบัติ ว่าต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ที่ต้องกำหนดให้ชัดเจน ทั้งนี้ ยอมรับว่าในการหารือกับพรรคประชาชน เขาต้องการให้ยกเลิก แต่พรรคเพื่อไทยเห็นว่ารายละเอียดดังกล่าวยังต้องเอาไว้ และปรับปรุงรายละเอียด และพบกันครึ่งทาง

นายชูศักดิ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนั้นในการพิจารณาคดีของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนั้น ในประเด็นที่มีความสำคัญ เช่น ยุบพรรคไม่ควรใช้เสียงข้างมาก แต่ควรมีเกณฑ์เช่น ใช้เสียง 2 ใน 3 หรือ  4 ใน 5 ส่วนกรณีที่มีข้อเสนอของพรรคประชาชน ให้ยกเลิกเกี่ยวกับอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบจริยธรรมนักการเมืองนั้น พรรคเพื่อไทยยังเห็นไม่เหมือน และคิดว่าไม่ควรยกเลิก อีกทั้งไม่ควรแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตนเอง

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่ได้หารือกับพรรคประชาชนและเห็นตรงกัน คือ ว่าด้วยคุณสมบัติของผู้มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง ที่ห้ามในประเด็นการถูกลงโทษหมิ่นประมาท ที่ถูกตัดสิทธิ 20 ปีนั้น ยาวนานเกินไป ซึ่งการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราดังกล่าว จะมีหลายๆ พรรคที่เสนอต่อรัฐสภาด้วย

เมื่อถามประเด็นของการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า การดำเนินการจะเป็นไปตามมติ ครม. ชุดที่แล้ว ที่พิจารณาคำถามและรายงานประชามติของคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติฯ ชุดที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นประธาน แต่ขณะนี้ยังรอการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่วุฒิสภาพิจารณาก่อน หากบังคับใช้เป็นกฎหมายแล้ว การทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญจะเริ่มนับหนึ่งได้

เมื่อถามว่าพรรคประชาชนเสนอให้ทบทวนการตั้งคำถามประชามติที่มีเงื่อนไข นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ต้องดูความเหมาะสม แต่คำถามดังกล่าว มติ ครม. ชุดที่แล้ว ประกาศไปแล้ว ดังนั้นต้องยืนยันตามเดิม.