เมื่อวันที่ 16 ก.ย. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวหลังร่วมกับ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รรท.ผบก.รน. เข้าประชุมออนไลน์กับกำลังพล บช.ก.ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ว่า ขณะนี้มีหน่วยงานของตำรวจ บช.ภ.1, 4, 5 และ 6 ที่รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยพื้นที่ บช.ภ.4 และ บช.ภ.5 น่าเป็นห่วงมากที่สุด ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทั้งสิ้น 11 สถานี แบ่งเป็นของตำรวจ บช.ภ.4 ในพื้นที่จ.หนองคาย 4 สถานี และ บช.ภ.5 มี 7 สถานี แบ่งเป็นที่ จ.น่าน 3 สถานี จ.พะเยา 4 สถานี ในจำนวนนี้มีบ้านพักตำรวจได้รับความเสียหายอยู่ระหว่างการซ่อมแซมด้วย

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า สำหรับเส้นทางคมนาคม ขณะนี้ให้ตำรวจทางหลวงคอยดำเนินการและตรวจสอบว่ามีเส้นทางใดที่มีปัญหาบ้าง แต่ที่ตนมีความเป็นห่วงในขณะนี้ก็คือเรื่องของเงินบริจาคที่อาจไปไม่ถึงผู้ประสบภัย หากพบมิจฉาชีพนำเงินบริจาคของประชาชนไปเป็นของตัวเอง ก็จะมีการตามตรวจสอบและดำเนินคดี เพราะตนมองว่าชั่วร้ายกว่าปกติ คนที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก ก็อย่ามาซ้ำเติมกัน รวมถึงมิจฉาชีพกลุ่มต่างๆ ที่เข้ามาก่อเหตุลักข้าวของในขณะที่ไม่มีคนอยู่ในบ้าน หากพบจะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด และโทษจะสูงกว่าปกติด้วย

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า สำหรับการช่วยเหลือของทางตำรวจที่ผ่านมาตนรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งหน่วยงานตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง มูลนิธิ และประชาชนทั่วไปที่เข้ามาช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นชมรมเจ็ตสกีที่ระดมทีมเข้ามาช่วย เพราะเรือของตำรวจน้ำไม่สามารถต้านทานกระแสน้ำได้ ขณะนี้จึงประสานให้จัดซื้ออย่างเร่งด่วนภายในสัปดาห์หน้าจะมีเจ็คสกีเข้ามา 12 ลำ และเริ่มฝึกยุทธวิธีต่างๆ เตรียมออกปฏิบัติหน้าที่หากเกิดปัญหาลักษณะนี้ขึ้นมาอีกได้

ด้าน พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบัน ทาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. โดยได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ บก.รน. ตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมจัดเตรียมอุปกรณ์ ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน จากการติดตามสถานการณ์มวลน้ำจากภาคเหนือที่คาดว่าจะไหลลงสู่ภาคกลางอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันที่ จ.เชียงรายนั้น น้ำได้ลดลงไปแล้ว แต่ก็ยังมีการจัดวางไว้เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ในพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา นครพนม มุกดาหาร และอุบลราชธานี ด้วยเช่นกัน พร้อมกันนี้ทางตำรวจน้ำยังคงมีภารกิจในการเฝ้าระวังและปราบปรามผู้ฉวยโอกาสในสถานการณ์อุทกภัยหรือช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ในการก่ออาชญากรรมร่วมกับตำรวจภูธรภาค 5 ด้วย อยากฝากถึงพวกที่ฉวยโอกาสก่อเหตุลักทรัพย์ หรือทำผิดกฎหมายในสถานการณ์ดังกล่าว จะมีการเพิ่มโทษทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด