เมื่อวันที่16 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมมัคคุเทศก์น้อย โรงเรียนประชาชนอุทิศ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) อุตรดิตถ์ เขต 1 นำกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้าชมสถานีรถไฟปางต้นผึ้ง จุดเริ่มต้นของทริป “เที่ยวสุดฟิน มหัศจรรย์กลางหุบเขา บ้านด่านนาขาม” ชุนชนที่น่าค้นหา ทั้งความสวยงามของธรรมชาติ เส้นทางประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ของแปลก ใหญ่ยักษ์ และไม่พลาดกับสายมูเตลู อิ่มอร่อยอาหารพื้นบ้าน พักโฮมสเตย์กลางหุบเขา

โดยทริปนี้ นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางด้วยรถยนต์ ได้ทั้งนั่งท้ายรถกระบะ รถตู้ แบบกึ่งสายแอดเวนเจอร์ จุดแรกคือสถานีรถไฟปางต้นผึ้ง สถานีที่สวยงามกลางหุบเขา โดดเด่นด้วยอาคารไม้ และมีความเก่าแก่แห่งหนึ่งในประเทศไทย สร้างเมื่อปี 2477 ปัจจุบันมีรถไฟสายเหนือ 4 ขบวนที่จอด ณ สถานีดังกล่าว และเป็นสถานีสุดท้ายของจังหวัดอุตรดิตถ์ ก่อนเข้าสู่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ นักท่องเที่ยวได้เข้าชมอาคารไม้เก่าแก่ รวมถึงอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ที่ยังคงใช้แบบดั้งเดิมต่อเนื่องมาตั้งแต่เริ่มต้นก่อสร้างสถานีรถไฟแห่งนี้

จากนั้นเดินทางต่อไปยังสิ่งมหัศจรรย์ “สะพานรวงผึ้ง” มีเพียง 1 เดียวในประเทศไทย เป็นสะพานที่มีความแปลกเพราะเป็นสะพานหัวกลับ เป็นสะพานสร้างระหว่างช่องเขา 2 ลูก เพื่อให้รถไฟวิ่งผ่าน ส่วนของเสาห้อยอยู่กลางอากาศด้วยโครงสร้างที่แปลก สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังฝ่ายพันธมิตรโจมตีทิ้งระเบิดเส้นทางรถไฟ สะพานที่คาดว่าญี่ปุ่นใช้ลำเลียงอาวุธ เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตจึงพลิก หรือปรับส่วนโครงสะพานหรือส่วนโค้ง จากปกติโชว์บนสะพานเปลี่ยนให้ห้อยลงระหว่างช่องเขา เป็นไปตามหลักวิศวกรรม หากมองจากทางอากาศจะเป็นทางรถไฟทั่วไปไม่เห็นเป็นสะพาน มีการเชื่อมโยงโครงเหล็กเพื่อช่วยพยุงและรับน้ำหนักด้านบน เกิดเป็นรูปร่างคล้ายรังหรือรวงผึ้ง ปัจจุบันยังใช้งานอยู่ มีรถไฟวิ่งผ่าน กลายเป็น Unseen ด้านโครงสร้างวิศวกร ตั้งอยู่ที่ หมู่ 10 บ้านปางต้นผึ้ง ห่างจากสถานีรถไฟปางต้นผึ้งมาประมาณ 5 กิโลเมตร

ระหว่างการเดินทาง นักท่องเที่ยวยังได้สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติและวิถีชีวิตของชาวบ้านด่านนาขาม เส้นทางจะลัดเลาะไปตามหุบเขาที่เต็มไปด้วยไม้ผลหลากหลาย ทั้งทุเรียน ลางสาด ลองกอง และผลไม้ตามฤดูกาล เนื่องจากชาวบ้านด่านนาขามทำสวนแบบผสมผสาน โดยเฉพาะช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายนนี้ นักท่องเที่ยวยังได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวสวน ชมการเก็บลองกอง การจัดเข่ง การขนด้วยรถจักรยานยนต์ และยังสามารถเลือกซื้อลองกองจากชาวสวนโดยตรงได้จากใต้ต้น

ภายในสวนลองกอง ต้องตะลึงกับความใหญ่ยักษ์ ที่สวนนวเกษตรของ นายบุญธรรม ตุมตอง คือ “ต้นผึ้งยักษ์” ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดของ จ.อุตรดิตถ์ อายุกว่า 100 ปี มีขนาด 20 คนโอบ สูง 40 เมตร หรือตึก 4 ชั้น มีพูพอนค้ำยันลำต้น 8 พู แต่ละพูร่องลึกและสูงกว่า 2 เมตร เป็นไม้เนื้ออ่อน ด้วยคุณสมบัติรากที่ดูดซับน้ำได้ดี จึงทำให้สวนแห่งนี้ไม่แห้งแล้ง ผลไม้ให้ผลผลิตตลอดทั้งปี และเป็นต้นไม้ที่มีความสำคัญตามร่องรอยประวัติศาสตร์ที่อยู่ในหุบเขา เพราะสวนแห่งนี้เคยเป็นฐานทัพของทหารสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้จะมีคนติดต่อขอซื้อแต่เจ้าของสวนไม่ขาย จะขออนุรักษ์ไว้เพื่อให้เกษตรกร หรือเพื่อนบ้านเห็นคุณค่าของต้นไม้ โดยเฉพาะต้นไม้ขนาดใหญ่

จุด Unseen ปิดท้ายทริปกับ “ถ้ำน้ำลอด” ถูกสร้างขึ้นสมัยสงครามโลก เป็นถ้ำปูนซีเมนต์หรือเป็นอุโมงค์ ความยาว 200 เมตร เชื่อว่าทหารญี่ปุ่นสร้างขึ้นเมื่อปี 2452 เพื่อใช้เป็นฐานทัพ เส้นทางลำเลียงอาวุธหรือกำลังพล เพื่อหลบสายตาของศัตรู และทดแทนรางรถไฟที่ได้รับความเสียหายจากการถูกโจมตี โดยอุโมงค์แห่งนี้มีน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี ปัจจุบันถ้ำน้ำลอด เป็นเส้นทางลำเลียงผลผลิตทางการเกษตรของชาวสวนออกจำหน่ายสู่ตลาด ส่วนด้านหลังของอุโมงค์เป็นแหล่งกักเก็บน้ำ เพื่อใช้ในการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง

นายธนาพร เมธาวัชรินทร์ นักท่องเที่ยวร่วมทริป กล่าวว่า ประทับใจเพราะแต่ละจุดถือว่าตนเพิ่งสัมผัสเป็นครั้งแรก และเชื่อว่าที่อื่นไม่น่าจะมี มาเที่ยวทริปเดียวครบหมดทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ยังแถมด้วยสายมู เส้นทางก็ถือว่าสะดวก นักท่องเที่ยวสามารถเลือกการเดินทางท่องเที่ยวได้ด้วย เป็นโครงการที่ดี เพราะก่อนที่เด็กๆ จะนำเที่ยวได้ เขาต้องศึกษา ทำความเข้าใจที่มาที่ไปชุมชนของตัวเอง เด็กๆ มีความภูมิใจ

นางภุมรินทร์ จันทะคุณ ผอ.โรงเรียนประชาชนอุทิศ กล่าวว่า โรงเรียนประชาชนอุทิศ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) อุตรดิตถ์ เขต 1 เป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษาที่มีบุคลากรทางการศึกษา 11 คน นักเรียน 113 คน เป็นโรงเรียนควบรวม คือ ผู้เรียนมาจากหลายชุมชนหลายหมู่บ้าน จึงมุ่งเน้นจัดการเรียนการสอนร่วมพัฒนา ด้วยศักยภาพของชุมชนตำบลบ้านด่านนาขาม ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองอุตรดิตถ์ สามารถเดินทางได้ทุกเส้นทาง ทั้งรถไฟ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน เด็กๆ ได้รับการอบรมจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย ลงพื้นที่ศึกษา สัมผัสแหล่งท่องเที่ยว วิถีชีวิตของชุมชนจริงๆ เพื่อสะสมประสบการณ์ ปลูกฝังสร้างความภูมิใจ รักภูมิลำเนาของตัวเอง สร้างงานสร้างรายได้ ร่วมคิด ร่วมพัฒนา และเพื่อสร้างความยั่งยืน โรงเรียนได้จัดเป็นหลักสูตรให้มีการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง รุ่นสู่รุ่น

สอบถามรายละเอียด และการจองทริป เพื่อสนับสนุนโครงการดีๆ มัคคุเทศก์น้อยนำเที่ยวชุมชนบ้านด่านนาขาม สะสมประสบการณ์ให้ลูกหลาน ได้ที่โรงเรียนประชาชนอุทิศ ต.บ้านด่านนาขาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ โทรศัพท์ 08-4593-7879, 08-9566-2834 และ 09-4736-3946