ที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน ถนนสามเสน นายพลากร สุวรรณรัฐ  องคมนตรี กล่าวในที่ประชุม ติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำฤดูฝนปี 2567 โดยมี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. และนายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน และคณะเข้าร่วม  โดยที่ประชุมได้รับทราบถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะที่ จ.เชียงราย  ว่า เป็นพระราชกระแสรับสั่งให้องคมนตรีมารับฟังข้อมูลสถานการณ์น้ำด้วยทรงห่วงใยราษฎรต่อภัยพิบัติที่เกิดขึ้น และมีกระแสพระราชดำรัสที่ส่วนเกี่ยวข้องได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรับมาปฏิบัติ ด้วยมีพระราชประสงค์ให้คนไทยทุกคนมีข้าวรับประทานทุกมื้อเมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น ซึ่งส่วนเกี่ยวข้องได้นำมาดำเนินการ เช่น ครัวพระราชทาน เป็นต้น

ทางด้าน นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร.  กล่าวถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาระยะยาวว่า โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ส่วนใหญ่ประชาชนจะขอเรื่องแก้ปัญหาน้ำแล้ง การขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคและทำกิน ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญภายหลังจากเกิดภัยพิบัติแล้ว  ทั้งนี้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประมาณ 70 % เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ  ที่ผ่านมามีประมาณ 3,000 กว่าโครงการ พบว่าส่วนใหญ่จะตื้นเขิน  ช่วงหน้าฝนรับน้ำได้น้อย ช่วงหน้าแล้งมีน้ำต้นทุนไม่เพียงพอ ขณะที่โครงการยังมีศักยภาพที่สามารถขยายผลเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์เพิ่มเติมได้

“โครงการที่มีอยู่แล้วหากพัฒนาเพิ่มเติมได้ก็อยากจะให้ดำเนินการ เนื่องจากปัจจุบันการพัฒนาแหล่งน้ำใหม่ๆ จะเกิดขึ้นได้ค่อนข้างยาก  ถ้าพัฒนาแหล่งน้ำเดิมเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำให้ประชาชนได้มากยิ่งขึ้นก็น่าจะสามารถทำได้ทันที”

ขณะที่นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ในระยะเร่งด่วนขณะนี้จะแก้ไขปัญหาสิ่งกีดขวางทางน้ำเศษวัชพืชที่ลอยมาติดสะสมตามจุดคอขวดต่างๆ  เพื่อการระบายน้ำที่รวดเร็ว ส่วนที่อยู่ริมแม่น้ำโขงต้องรอให้น้ำในแม่น้ำโขงลดระดับลงจึงจะระบายน้ำที่ท่วมขังลงสู่แม่น้ำโขงต่อไปได้ ซึ่งถึงตอนนั้นจะเร่งดำเนินการอย่างเร็วที่สุด