เมื่อวันที่ 15 ก.ย. พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ เรียกประชุมผู้บังคับหน่วยของกองทัพเรือ ในพื้นที่ต่างๆ ผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศไทยรวมถึงรับทราบการปฏิบัติ ปัญหา อุปสรรคข้อขัดข้องของกำลังพลศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ ที่ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ที่เกิดอุทกภัย
ผบ.ทร.กล่าวว่า ในส่วนของพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย มีหน่วยราชการอื่นมาปฏิบัติงานทดแทน กำลังกองทัพเรือในส่วนที่หมดความจำเป็น จะถอนตัวเพื่อไปเตรียมการช่วยเหลือในพื้นที่อื่นต่อไป โดยกำลังที่คงเหลือในการช่วยฟื้นฟูในพื้นที่ จะเป็นชุดบรรเทาสาธารณภัย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ชุดค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR) ของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และเรือผลักดันน้ำ 10 ลำ ที่ปฏิบัติงานอยู่ที่ อ.เทิง จ.เชียงราย
ผบ.ทร.กล่าวต่อว่า ในส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ประสบวิกฤติน้ำท่วมจากน้ำที่เอ่อล้นจากแม่น้ำโขง เข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่เกษตรเป็นวงกว้างนั้น หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) ได้มีการเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ และได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ในการวางกระสอบทรายเพื่อจัดทำแนวป้องกันน้ำจากแม่น้ำโขงที่เอ่อล้น การขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง การอพยพลำเลียงคน สัตว์เลี้ยง สิ่งของมายังพื้นที่ปลอดภัย การนำอาหาร สิ่งของบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบภัย และจะดำรงการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องต่อไป
ผบ.ทร.กล่าว ยังได้เน้นย้ำและสั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของหน่วยกองทัพเรือในทุกพื้นที่ ดำเนินการในลักษณะเตรียมการป้องกันไว้ล่วงหน้าก่อนเกิดเหตุ พร้อมทั้งให้ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมรับมือ และแจ้งเตือนประชาชนตลอดจนให้ทุกหน่วยจัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนได้อย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ กองเรือยุทธการ ได้จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ จ.หนองคาย และ จ.นครพนม ประกอบด้วย กำลังพล เรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ติดท้าย จำนวน 8 ลำ รถยนต์บรรทุก และ รถยนต์โดยสารขนาดใหญ่ โดยจะเดินทางเข้าพื้นที่ในช่วงค่ำวันนี้ โดยประชาชนสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือจากหน่วยเฉพาะกิจช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย กองทัพเรือ พื้นที่จังหวัดเชียงราย ได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 0931763774 พื้นที่หนองคาย โทร. 042451075 พื้นที่นครพนม โทร. 042541205 และพื้นที่อุบลราชธานี โทร. 045251578 หรือที่ สายด่วนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ 1696 ตลอด 24 ชั่วโมง.