เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายอนุทิน​ ชาญ​วี​ร​กูล​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ และ​รมว.มหาดไทย​ เป็นประธานประชุม​กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ​ เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและแนวโน้มสถานการณ์​ รวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชน​ที่ได้รับผลกระทบ​ โดยมี น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี​ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม​ น.ส.ธีร​รัตน์​ สำเร็จ​วาณิชย์​ รมช.มหาดไทย​ และ​หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง​ เข้าร่วมประชุม​ พร้อมจะมีการติดตามสถานการณ์​น้ำในพื้นที่อุทกภัย​ จากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย​ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย​ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย​ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี​ และผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา​ วิดีโอ​คอนเฟอเรนซ์​ เข้ามา​ร่วมประชุมด้วย​ ​

นายอนุทิน กล่าวระหว่างการประชุมว่า วันนี้ต้องขอขอบคุณที่ท่านที่ได้ให้ความร่วมมืออย่างดียิ่งในการมาประชุม เพื่อรองรับสถานการณ์อุทกภัยในเขตจังหวัดทางตอนเหนือและภาคอีสานของประเทศ อย่างไรก็ตาม วันนี้ เรามีความตั้งใจที่จะจัดตั้งให้มีหน่วยงานที่จะเป็นศูนย์กลางในการกระจายข้อมูลข่าวสารต่างๆ ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้บูรณาการความร่วมมือกันให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีหลายท่านได้ลงไปตรวจเยี่ยมไปสังเกตการณ์สถานการณ์ต่างๆ ในพื้นที่ ซึ่งวันนี้เราน่าจะหาข้อสรุปว่าจะมีการป้องกันอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยเกิดความปลอดภัยสูงสุดในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาก็ยังคาดการณ์ว่าในช่วงเดือนนี้จำนวนปริมาณฝนก็ยังคงมีอย่างหนาแน่น เพราะยังได้รับอิทธิพลจากพายุหมุนเขตร้อน ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ รัฐบาลมีความห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตนเองก็ได้ลงไปในพื้นที่ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (14 ก.ย.) ที่จังหวัดหนองคาย ได้เห็นความร่วมมือของทุกฝ่าย

นายอนุทิน ย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องสามารถรับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องชัดเจน ให้กับพี่น้องประชาชนเตรียมการระมัดระวังตัวให้ตัวเองปลอดภัย กระทรวงมหาดไทยได้จัดเตรียมสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ ตลอดจนฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด คงจะต้องมีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงต่างๆ ในการฟื้นฟูและเยียวยาทรัพย์สิน จิตใจ นำความเป็นปกติสุขมาให้พี่น้องประชาชนให้เร็วที่สุด

นายอนุทิน ระบุว่า จากการที่ได้ลงไปในพื้นที่ ตนยืนยันว่าหน่วยงานทุกหน่วยงานมีความทุ่มเท มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นภาพที่เห็นแล้วเป็นความร่วมมือที่ดี เข้มแข็งมีทั้งหน่วยงานปกครอง ราชการ ตำรวจ ทหาร ล้วนแล้วแต่อยู่ในพื้นที่ ที่น่าปลื้มใจองค์กรในส่วนต่างๆ มูลนิธิระดมเข้าไป สิ่งที่เห็นที่แตกต่างอย่างชัดเจนคือเราอาจจะยังทำเรื่องของการป้องกันได้ไม่เต็มที่ แต่ในเรื่องของการบรรเทา ในเรื่องของการให้การดูแลคุณภาพจิตใจ สภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน ตนคิดว่าเราได้ทำอย่างเต็มที่ วันนี้ไม่มีสภาพที่ว่าขาดโน่นขาดนี่

“อย่างผมไปจังหวัดหนองคาย ลงพื้นที่ไปหลายชุมชน ตอนแรกก็คิดว่าจะลงไปแล้วจะช่วยผ่อนคลายสภาพความตึงเครียดของพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยอย่างไร กลับกลายเป็นว่าพวกเขาเหล่านั้นมีสภาพจิตใจและอารมณ์ดีมาก จนผมจุกอกเลยนะครับ ว่าเขาโดนภัยธรรมชาติขนาดนี้ เขายังมีรอยยิ้ม มีกำลังใจในการโต้ตอบสื่อสารกันด้วยความเป็นมิตร อันนี้ผมกราบเรียน ผมลงไปผมคิดว่าจะระมัดระวังตัวว่าจะทำอย่างไร จะไปรับคำตำหนิคำวิพากษ์วิจารณ์จากชาวบ้านโดยตรง แต่ปรากฏว่าเขามีความให้กำลังใจพวกเรา ชื่นชมพวกเรา ชื่นชมทหาร ตำรวจ ข้าราชการทุกฝ่าย ตอนนี้มูลนิธิต่างๆ ก็เข้าไป บางคนเข้าไปช่วยเพราะเป็นวันหยุด ก็เอาของแห้ง ขนมไปให้ เด็กเขาก็สนุกของเขา เราก็เป็นห่วง ต้องใส่ชูชีพ ด้วยจิตใจที่อยากช่วยเหลือชาวบ้าน ก็มีความอบอุ่น ก็เป็นการปลูกฝังให้เขาได้รับสภาวะที่มีจิตอาสา เห็นความสุขจากการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เป็นภาพที่มีความงดงาม เพราะฉะนั้น ในส่วนของฝ่ายราชการเองที่เราจะต้องให้การดูแลพวกเขาอย่างเต็มที่ ผมคิดว่าเราต้องใช้โอกาสนี้ในการที่จะเร่งดำเนินการทุกวิถีทางที่จะคืนความสุข คืนความเป็นปกติให้กับพี่น้องประชาชนเหล่านั้น เขาอาจจะยิ้มกับเราในวันนี้ แต่หากไม่ปรับปรุงแก้ไขรอยยิ้มก็อาจจะเป็นความโกรธขึ้นมาก็ได้ ถ้าเขาให้โอกาสเราแล้ว แล้วเราไม่นำสถานการณ์มาเป็นบทเรียน” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการ ผ่านเลขาธิการนายกรัฐมนตรีในการให้การช่วยเหลือ หากไม่พอก็ขอให้ขยายวงเงินเพิ่มเข้ามา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการขยายงบเงินไปจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จังหวัดอื่นก็ขอให้เตรียมการอย่าให้สะดุด ส่วนเรื่องการเยียวยา ตอนนี้ได้รับข้อสั่งการจากนายกรัฐมนตรีมาว่าให้กระทรวงมหาดไทย ช่วยกันเรื่องการสำรวจความเสียหายของครัวเรือนต่างๆ ซึ่งน่าจะมีแนวทางในการชดเชยเยียวยาค่าเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนเป็นรายครัวเรือน เรื่องนี้ต้องเร่งอย่าชักช้าเด็ดขาด นายกฯ ก็ได้เตรียมงบประมาณส่วนนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว ในส่วนการเยียวยาเพิ่มเติมจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทยก็ได้รับข้อสั่งการและนำเสนอท่านนายกรัฐมนตรีผ่านเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับการเห็นชอบในหลักการ แต่ในเรื่องการดำเนินการก็น่าจะอยู่ภายใต้อำนาจการจัดการของกระทรวงมหาดไทย

“เราอ่านคอมเมนต์พี่น้องประชาขน ทุกคนก็มีความคาดหวังว่าเราจะลดความเดือดร้อน ผมขอมอบเป็นนโยบายตรงนี้เลยว่าไม่ใช่ลดค่าไฟเป็นพิธี แต่ต้องลดเพื่อบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น เมื่อวานการประปาส่วนภูมิภาคจะประชุมวันที่ 25 ก.ย.ผมบอกว่าไม่ทัน ต้องเร่งประชุมพรุ่งนี้เลย” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน เน้นย้ำว่า ไม่ต้องรอเบื้องบน ตอนนี้ไม่มีเบื้องบนแล้ว มีแต่เบื้องล่าง เราอยู่เบื้องล่างประชาชนทั้งนั้น อันไหนที่ดำเนินการได้ก็ขอให้ดำเนินการ

“อะไรที่อยู่เคียงข้างท่านได้ ใครจะมาวิพากษ์วิจารณ์จะมาตำหนิ หรือแม้กระทั่งมาตั้งสอบอะไร ก็ขอเอาเจตนารมณ์เป็นหลัก อย่าไปกลัวครับ ถ้าเราทำดีแล้ว มันไม่มีทางที่จะมีอะไรมาทำความเดือดร้อนได้ พวกผมทุกคนพร้อมที่จะปกป้องท่านอย่างเต็มที่ ถ้าทำดีแล้ว อย่างเรื่องถูกสอบสวนถูกดำเนินคดีอะไรต่างๆ ผมว่ารัฐมนตรีต้องรับผิดชอบพวกท่านได้ ไม่อย่างนั้นทำอะไรไม่ได้ เราทำงานมาด้วยกันปีที่ 5 แล้ว มานั่งตรงนี้ตั้งแต่โควิด ตอนนี้ก็น้ำท่วมไม่มีครั้งไหน ไม่มีวิพากษ์วิจารณ์ ขอให้มั่นใจไม่ว่าใครจะตั้งคำถาม เราก็ต้องการต้องดูหน้างาน วันนี้การลงหน้างาน จะทำให้เราสามารถตอบคำถามทุกอย่างได้ พวกเราทุกคนก็พร้อมที่จะทำงานอยู่แล้วครับ เราไปทำงาน ไม่ได้ไปเพื่อยืนดูถ่ายภาพ แล้วเอามาลงโซเชียลมีเดีย ผมพูดได้เลยว่าพวกเราทุกคนเลยจุดนั้นไปแล้ว ขอให้เราเชื่อมั่นในเจตนารมณ์และทำในสิ่งที่ถูกต้องผมมั่นใจว่าเราจะผ่านทุกอย่างไปได้ด้วยดี” นายอนุทิน กล่าว

ทั้งนี้​ ก่อนเริ่มการประชุม​ นายอนุทิน​ ได้​เยี่ยมชม​นวัตกรรมของกระทรวง​ อว.​ ที่เตรียมนำไปสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม​ ซึ่งมีทั้ง​โดรนสำรวจแบบปีกแข็ง ที่ใช้กระจายเสียงแจ้งเตือนประชาชน​ โดรนส่งของให้กับผู้ประสบภัย​ นวัตกรรมอาหารที่เก็บได้นานเป็นปี​ ทั้งข้าวพร้อมทาน​ ไข่พะโล้ ผักกรอบ เครื่องกรองน้ำแบบประดิษฐ์​จากท่อพีวีซี​ นอกจากนี้ยังมีระบบติดตามสถานการณ์น้ำท่วม จากข้อมูลดาวเทียม แสดงพื้นที่น้ำท่วม น้ำล้นตลิ่ง และพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม