กลายเป็นข่าวที่สร้างความเศร้าใจให้กับวงการบันเทิงไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับการสูญเสีย “ฉลอง ฉักดีวิจิตร” ศิลปินแห่งชาติ และผู้กำกับละครและหนังแอ็คชั่นที่อยู่ในความทรงจำของแฟนละครมากมาย ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิต ทางครอบครัวได้แจ้งว่าเกิดจากปอดติดเชื้อ โดยก่อนหน้านี้ฉลองได้พักรักษาตัว ด้วยอาการปอดติดเชื้อ กระทั่งวันที่ 28 ส.ค. 67 อาการได้ทรุดลง ครอบครัวจึงได้นำตัวส่งเข้าพักรักษาที่โรงพยาบาล รามาธิบดี และได้จากไปอย่างสงบในวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่างไปแล้วนั้น

เปิดเส้นทางชีวิต ‘ฉลอง ภักดีวิจิตร’ ผู้กำกับ 4 แผ่นดิน ฉายา ‘เจ้าพ่อหนังแอ๊คชั่น’

ความคืบหน้าล่าสุด ทางครอบครัวที่นำโดย ลูกๆ ทั้ง 3 คนอย่าง กัญจน์ ภักดีวิจิตร, บุญจิรา ภักดีวิจิตร, เฉิดบุญ ภักดีวิจิตร ได้จัดพิธีทางศาสนา ณ วัดมกุฏกษัตริยาราม ศาลา 10 ซึ่งก่อนเริ่มพิธีรดน้ำศพ ลูกๆ ทั้ง ได้เปิดใจกับหน้าสื่อมวลชนว่า 

กู๊ด เฉิดบุญ เผยว่า “ลูกทั้งสามคนแล้วก็ญาติพี่น้องทุกคนรู้สึกเสียใจเพราะว่าคุณพ่อเป็นที่พึ่ง เป็นอาจารย์ เป็นครู เป็นพระในบ้าน เป็นทุกอย่าง และเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับลูกทุกคนมาโดยตลอดเวลา ถึงตอนที่คุณพ่อป่วยคุณพ่อก็ยังอารมณ์ดี ยังขี้เล่นเหมือนเดิม จนมาอาการทรุดลง จึงทำให้วันนี้เกิดขึ้น ทำให้ทุกคนมีความเสียใจมากเป็นอย่างยิ่ง สำหรับขั้นตอนการรักษา จริงๆแล้วทำถูกขั้นตอนมาตลอดในส่วนของการรักษาดีขึ้นมาเรื่อยๆ ดีขึ้นมาแล้วช่วงหนึ่ง จนคุณพ่อได้รับเชื้อ ติดเชื้อจากปอดอีกรอบหนึ่ง และรอบสุดท้ายนี้คุณพ่อเป็นหนักมาก ทำให้ทุกอย่างแย่ขึ้นเรื่อยๆ จากจากห้องธรรมดาก็ย้ายไปห้องไอซียู และเริ่มเพิ่มเครื่องมือในการแพทย์มากขึ้นจนสุดท้ายคุณพ่อทนไม่ไหวแล้วก็จากเราไปครับ มีพี่แก้วดูแลใกล้ชิดมาก

คำพูดสุดท้ายที่พ่อได้พูดกับพวกเราคือขอให้ลูก ๆ ทุกคนมีความสุขความเจริญ ทำสิ่งใดขอให้ประสบความสำเร็จ คุณพ่ออวยพรแบบนี้ทุกวัน เช้ากลางวัน เย็น เกินเช้ากลางวันเย็นด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่ขึ้นไปหาคุณพ่อก็จะอวยพร ก่อนจะกลับออกจากห้องคุณพ่อก็อวยพรอีก คุณพ่ออวยพรลูกตลอดเวลา จนคำพูดที่คุยเป็นครั้งสุดท้ายคือคำพูดที่อวยพรจากคุณพ่อ ล่าสุดที่คุณพ่อเข้าไอซียู ผมเอารูปที่ผมบวช ให้คุณพ่อนึกถึงบุญในวันที่ในวันที่ผมบวชให้คุณพ่อคุณแม่ ผมบอกคุณพ่อว่า บุญที่ลูกได้บวชให้ ลูกให้พ่อหมดเลยลูกไม่เอาไว้เลย ขอให้พ่อนึกถึงบุญที่ลูกได้บวชในวันนั้น และมีภาพที่คุณพ่อคุณพ่อรดน้ำศรีษะผมในวันนั้น คุณพ่อยิ้มปลาบปลื้มมาก คุณพ่อได้ดูภาพนั้นตอนสุดท้ายคุณพ่อรับทราบและเห็นภาพที่ผมบวช”

กู๊ด เฉิดบุญ เผยต่อว่า “จริงๆตอนเรื่องแคน 2แผ่นดิน คุณพ่อก็ไม่ไหวนะ ตอนเดินในกองถ่ายก็เดินโยกเยกๆ เหนื่อยมากคนอายุ 92 เดินอยู่กลางป่า ทำอะไรเองทุกอย่างเหมือนวัยหนุ่มๆที่เขาเคยทำ เลยเหนื่อยและเพลียมาก แต่สุดท้ายแล้วพอร่างกายไม่ไหว ก็ต้องพักและท่านได้พักแล้ว แต่เราแค่ไม่ได้ตั้งใจว่าท่านจะอยู่กับเราในระยะเวลาสั้นแค่นี้ พรที่คุณพ่อให้ม่ตลอด มันเป็นแรงฮึกเหิม ที่พอฟังแล้วเป็นความรู้สึแม้เราเหนื่อยมาจากสิ่งที่เราเจอ แต่สิ่งที่พ่อพูดมันสามารทำให้เรามีกำลังใจในการทำงาน เสียงของคุณพ่อกับสิ่งที่คุณพ่อให้พร ข้อความของคนสมัยโบราณที่พูด มันมีความขลังมาก เสียงพ่อเขาขลังเวลาเขาอวยพร มันเหมือนมีแรงกระตุ้นอะไรขึ้นมา

แม้เราจะท้อใจ ก็มีกำลังใจในการดำเนินงานต่อไปในวันข้างหน้า เป็นพลังบางอย่างที่บอกไม่ถูก มันมีแรงขึ้นมาทันที ก็ใจหายมากๆ ในช่วงที่คุณพ่อยังปกติได้คุยกันทุกวัน คุณพ่อยังคุยไลน์มาทุกเช้า เป็นไลน์ที่พิมพ์จากมือ ไม่ใช่ก๊อปปี้ใครมาเป็นภาษาของเขาเป็นคำอวยพรที่เป็นภาษาของพ่อ ถึงวันนี้ พ่อจะไม่ได้อยู่กับเราแล้วแต่ในความรู้สึกของลูกๆ ทุกคน ผมเชื่อว่าเสียงพ่อยังก้องกังวาลออยู่ในหูของพวกเรา และคำสอนของพ่อ คำอวยพรของพ่อ ทุกอย่างที่พ่อเคยสั่งสอนมา มันจะอยู่ในใจเราตลอดไป ในสิ่งที่พ่อแม่เคยสั่งสอนเราจะเก็บแต่สิ่งที่ดีๆ ไว้ทุกอย่าง รู้สึกภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกคุณพ่อ ภูมิใจมากจริงๆ ที่มีอาชีพทำทุกวันนี้ได้ เป็นเพราะว่าคุณพ่อบุญฉลองคนนี้จริงๆ เพราะว่าผมค่อนข้างเกเรในตอนเรียน จนได้มาทำงานกับคุณพ่อ คุณพ่อสั่งสอนอะไรมาเรื่อยๆจนเป็นมาถึงทุกวันนี้ ที่มีทุกวันนี้ได้ทั้งจากคุณพ่อและคุณแม่เลย ผมใกล้ชิดกับคุณพ่อค่อนข้างมากเพราะผมฝึกงานกับคุณพ่อ และผมนั่งอยู่ที่กองภาพยนตร์ตั้งแต่เด็ก ตอนที่ไปเพราะว่าติดคุณพ่อกับคุณแม่ แล้วเหมือนเราผูกพัน จนสุดท้ายเราชอบ แต่สิ่งที่เราได้มาคือปัญญา ความรู้จักคุณพ่อความสามารถที่คุณพ่อสอน คุณพ่อมองอะไรเรามองตาม คุณพ่อก็มองมุมกล้องเราก็นั่งดูอยู่ด้วยเราอยากรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ พอแก้บท พ่อตัดต่อเราอยู่ตลอดทุกขั้นตอน จนทุกวันนี้วิชาที่ได้มาจากครูคนนี้“

กัญจน์ เผยว่า “น้องสาวดูแลคุณพ่อมาตั้งแต่แรกพอรู้ว่าเป็นตั้งแต่แรกเลย ผมอยู่คนละบ้านกับน้องสาวก็จะไป ๆ มา ๆ ที่โรงพยาบาลและที่บ้านน้อง ตอนนั้นคุณพ่ออาการดีขึ้นได้ไปเยี่ยมคุณพ่อที่บ้านทุกวัน รู้สึกดีใจมากครับที่คุณพ่อมีคนรักทั่วทั้งประเทศ ตั้งแต่รุ่นเด็ก จนถึงคนมีอายุ พ่อเป็นผู้กำกับในดวงใจของใครหลายๆคน รวมถึงกอล์ฟแก้วกู๊ดด้วย พ่อจะมีวิธีการสอนที่ไม่เหมือนคนอื่น แต่ว่าเขาให้ใจเราเต็ม 100 อาจจะดุหน่อยแต่จริงๆ แล้วเป็นคนใจดีมาก

สำหรับคำอวยพรของพ่อ คือตอนเช้า เขาจะทักมาทุกเช้า วันไหนที่ไม่ทักมาก็จะทักไปถามน้อง ๆ ว่าทำไมพ่อไม่ทักมาจะเป็นประมาณนั้น ตื่นเช้ามาเห็นคำอวยพรของพ่อ ก็จะมีกำลังใจในการทำงาน มันมีความสุข (อยากพูดอะไรกับพ่อ) รักพ่อครับ“

แก้ว บุญจิรา เผยว่า ”เรื่องที่คุณพ่อเป็นห่วงก็คงจะเป็นเรื่องงาน แต่ไม่อยากให้คุณพ่อไม่สบายใจ จะบอกว่าลูกเคลียร์ทุกอย่าง บอกว่าไม่ต้องห่วง ลูกเข้มแข็ง สามารถที่จะเลี้ยงดูตัวเองได้แล้ว พ่อเขาจะได้ไม่ห่วง โปรเจ็คที่คุณพ่อทำไว้ค้างๆไม่มีแล้ว แต่พวกเราทั้งสามก็ยังมีกับทางช่อง3 และคิดโปรเจ็คอื่นๆไว้ด้วย ณ ตอนนี้ กำหนดการหลังจากนี้เราจะเก็บไว้ 100 วันรอพระราชทานเพลิงศพอีก 3 เดือนข้างหน้า ขอบคุณที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อ ถ้าชาติหน้ามีจริง อยากเกิดเป็นลูกพ่อกับแม่อีก ลูกภูมิใจมาก ที่ตั้งแต่เด็กจนโตมา ได้เป็นลูกผู้กำกับ ภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ มีใจที่รักประชาชนรักงานมากกว่าตัวเอง จะพยายามทำให้ดีที่สุดเหมือนที่พ่อทำ”..