ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. 2567 หญิงสาววัย 31 ปี จากเมืองอามางะซะคิ จังหวัดเฮียวโงะ ของญี่ปุ่น อ้างว่าเธอได้รับโทรศัพท์จากบุคคลลึกลับเป็นประจำ โดยเขาจะโทรฯ มาหาเธอ แต่ไม่ยอมพูดอะไรเลย จนกระทั่งเธอวางหูไป เหตุการณ์เช่นนี้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องหลายสัปดาห์ และเนื่องจากเป็นโทรศัพท์จากเบอร์ที่ไม่มีการเปิดเผยหมายเลขบนหน้าจอ ทำให้เธอไม่สามารถบล็อกหมายเลขดังกล่าวได้
หญิงสาวเล่าว่าส่วนใหญ่แล้ว เธอจะได้รับโทรศัพท์ลึกลับนี้วันละหลายสิบครั้ง แต่ก็มีบางวันที่คนร้ายโรคจิต โทรฯ เข้ามาหาเธอมากกว่า 100 ครั้ง ที่น่าแปลกก็คือไม่เคยมีโทรศัพท์ลึกลับมาหาเธอในช่วงกลางคืน โดยเฉพาะช่วงที่เธอใช้โทรศัพท์ของสามีเล่นเกม ซึ่งทำให้เธอเริ่มรู้สึกเอะใจว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกัน
เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงเดือน ส.ค. หญิงสาวก็ยังคงได้รับโทรศัพท์จากบุคคลลึกลับ เธอจึงเริ่มคิดหาวิธีเปิดโปงมนุษย์โรคจิตรายนี้ และยิ่งเธอรวบรวมข้อมูลและคิดวิเคราะห์มากขึ้นเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกสงสัยในตัวสามีวัย 38 ปีของเธอมากขึ้นเท่านั้น เพราะช่วงเวลาเดียวที่คนร้ายไม่เคยโทรฯ มาหาเธอ คือช่วงเวลาตอนกลางคืน ระหว่างที่เธอและสามีกำลังนอนหลับกับ ระหว่างที่เธอใช้โทรศัพท์ของเขาเพื่อเล่นเกม
สุดท้าย หญิงสาวก็ตัดสินใจเข้าแจ้งความเพื่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจ พร้อมกับบอกเล่าข้อมูลและเบาะแสที่ทำให้เธอสงสัยว่า คนร้ายจะเป็นสามีของเธอให้เจ้าหน้าที่ฟัง
หลังจากที่ตำรวจดำเนินการสืบสวน เจ้าหน้าที่ก็ยืนยันกับหญิงสาวว่า ข้อสงสัยของเธอเป็นความจริง คนร้ายคือสามีของเธอเอง และตำรวจก็เข้าจับกุมตัวเขาเมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยตั้งข้อหาว่าละเมิด พ.ร.บ.สั่งห้ามการลอบติดตามบุคคลของญี่ปุ่น
เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามสามีของหญิงสาวระหว่างการสอบสวน ถึงสาเหตุที่เขาประพฤติตัวเหมือนคนโรคจิต ด้วยการโทรฯ หาภรรยาวันละหลายสิบครั้ง เขาก็ตอบว่าเป็นเพราะเขารักภรรยาของเขา ก็เลยโทรฯ หาเธอ โดยไม่ได้พูดอะไรออกมา
ปกติแล้วในญี่ปุ่นจะมีสามีภรรยาที่อยู่กันคนละบ้านอยู่ไม่น้อย โดยอาจจะมีสาเหตุจากหน้าที่การงานที่อยู่ในต่างพื้นที่กัน ทำให้มีคู่สามีภรรยาบางคู่ เกิดความหึงหวงและเริ่มสะกดรอยหรือแอบติดตามพฤติกรรมของอีกฝ่าย อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทางตำรวจเมืองอามางะซะคิยืนยันว่า เป็นครั้งแรกที่เกิดกรณีแอบสะกดรอยระหว่างสามีภรรยา ทั้งที่ทั้งคู่ยังคงใช้ชีวิตร่วมบ้านเดียวกัน
ที่มา : odditycentral.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
