นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยภายหลังพิธีมอบรางวัลคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ดีเด่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ว่า กรมบัญชีกลางจัดงานพิธีมอบรางวัล คบจ. ดีเด่น เป็นประจำทุกปี มาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ได้รับเกียรติจากนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานมอบรางวัลฯ ในวันนี้(13 กันยายน 2567) ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 1 โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ โดยเป็นการมอบรางวัลให้แก่ คบจ. ซึ่งประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังในส่วนภูมิภาค โดยมีคลังจังหวัดเป็นประธาน ด้วยการทำงานแบบบูรณาการในนามกระทรวงการคลังทั้งในส่วนของภารกิจหน่วยงานและภารกิจเชิงพื้นที่ มุ่งหวังแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่เป็นหลัก ซึ่งเป็นการนำนโยบายของกระทรวงการคลังสู่การปฏิบัติในส่วนภูมิภาคจนเกิดผลเป็นรูปธรรม

เช่น การแก้ไขเศรษฐกิจฐานราก โครงการ National e-Payment การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ และการจัดทำโครงการที่สอดรับกับยุทธศาสตร์ของจังหวัดหรือความต้องการของพื้นที่ โดยมุ่งเน้นการช่วยเหลือ สนับสนุน ส่งเสริม ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) การดำเนินการตามมาตรการภาษี ตลอดจนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยการขับเคลื่อนของทีมเฉพาะกิจวายุภักษ์เพื่อการแปลงยุทธศาสตร์กระทรวงการคลังสู่ภูมิภาค ซึ่งมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ผู้แทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นกรรมการ และมีที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง กรมบัญชีกลาง เป็นกรรมการและเลขานุการ

“ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ทีมเฉพาะกิจวายุภักษ์เพื่อการแปลงยุทธศาสตร์กระทรวงการคลังสู่ภูมิภาคได้สนับสนุนและติดตามการทำงานของ คบจ. เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยกำหนดเกณฑ์การพิจารณา คบจ. ดีเด่น เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติงานด้านการเงินการคลังของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจใน คบจ. ให้มีประสิทธิภาพ โดยแบ่งเกณฑ์การพิจารณาออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านนโยบายการดำเนินงานที่สอดรับกับนโยบายรัฐบาล/กระทรวงการคลัง (Top down/Agenda Based) 2. ด้านนโยบายการดำเนินงานที่สอดรับกับยุทธศาสตร์จังหวัด หรือความต้องการของพื้นที่ (Area Based) และ 3. ด้านงานตามภารกิจหลัก (Function Based)

จากผลการดำเนินงานตามเกณฑ์การพิจารณา คบจ. ดีเด่น ได้แสดงให้เห็นว่า คบจ. สามารถดำเนินภารกิจตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเห็นควรมอบรางวัลเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและขวัญกำลังใจแก่ คบจ. ที่มีผลการดำเนินงาน ผ่านเกณฑ์การประเมิน คบจ. ดีเด่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 25 จังหวัด แบ่งเป็น รางวัลที่ 1 – 10 จำนวน 15 รางวัล ได้แก่ รางวัลที่ 1 คบจ. อำนาจเจริญ รางวัลที่ 2 คบจ. สมุทรสาคร รางวัลที่ 3 คบจ. สมุทรสงคราม รางวัลที่ 4 คบจ. มุกดาหาร รางวัลที่ 5 คบจ. ยะลา รางวัลที่ 6 – 10 คบจ. หนองคาย กำแพงเพชร อุดรธานี แม่ฮ่องสอน กระบี่ กาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา ขอนแก่น และสกลนคร และรางวัลพิเศษเฉพาะด้าน จำนวน 10 รางวัล ได้แก่ คบจ. สุโขทัย ลำพูน ตราด ราชบุรี อุทัยธานี อ่างทอง อุบลราชธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี และแพร่” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า การมอบรางวัลในครั้งนี้ เป็นการเชิดชูเกียรติและขวัญกำลังใจให้แก่ คบจ. รวมทั้งเผยแพร่บทบาทและภารกิจของ คบจ. ให้หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และประชาชนได้รับทราบ เพื่อเป็นต้นแบบการปฏิบัติงานให้กับ คบจ. อื่น ๆ เนื่องจาก คบจ. เป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการคลังลงสู่ภูมิภาค และเป็นกลไกในการบริหารงานของส่วนราชการ รวมทั้งสามารถบริหารจัดการ การใช้จ่ายงบประมาณของแผ่นดินให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนสูงสุด