นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจบรอดแบนด์ AIS  เปิดเผยว่า ได้เป็นตัวแทนในการมอบเงินสมทบ “ศูนย์รับความร่วมมือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพื้นที่ภาคเหนือ” กองทัพภาคที่ 3 พร้อมถุงยังชีพเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ ต่อ พลโทประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3

โดยวันนี้ AIS และทีมวิศวกร ยังคงเร่งดูแลโครงข่ายสัญญาณมือถือ และเน็ตบ้าน สำหรับลูกค้าและประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและพื้นที่ภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยจัดรถสถานีฐานเคลื่อนที่ (COW) ไปยังจุดสำคัญ อาทิ บริเวณที่ว่าการอำเภอแม่สาย  และในพื้นที่ สภ.เมืองเชียงราย และอีกหลายพื้นที่ พร้อมระดมทีมเข้าไปดูแลอุปกรณ์ความพร้อมของเครื่องปั่นไฟและน้ำมันเพื่อให้สถานีฐานในจุดสำคัญยังคงสามารถทำงานได้ เพื่อให้ประชาชน เจ้าหน้าที่อาสา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้สามารถใช้งานระบบสื่อสารได้อย่างดีที่สุดภายใต้ข้อจำกัด

นอกจากนี้ยังมีพนักงานทีมอุ่นใจ อาสา พร้อมพาร์ทเนอร์ตัวแทนจำหน่ายอย่างเทเลวิซในพื้นที่ ทำงานร่วมกับหน่วยงานบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัย เข้าเชื่อมต่อ ช่วยเหลือ สนับสนุนสิ่งของจำเป็นต่อประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

AIS ขอส่งความห่วงใยไปยังผู้ประสบภัยน้ำท่วมและเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและภาคเหนือ เราขอยืนยันพร้อมดูแลระบบสื่อสารมือถือและเน็ตบ้านของลูกค้าและประชาชน ให้สามารถใช้บริการสื่อสารได้อย่างดีที่สุด

ด้าน นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทีมเน็ตเวิร์กของทรูได้นำเครื่องปั่นไฟและน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปในพื้นที่น้ำท่วม จังหวัดเชียงราย ตามจุดที่สถานการณ์เริ่มอำนวยจากมวลน้ำป่าไหลแรง เพื่อให้เสาสัญญาณในจุดที่การไฟฟ้าจำเป็นต้องตัดกระแสไฟเพื่อความปลอดภัย ให้ทำงานต่อได้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ยังสามารถติดต่อสื่อสารได้แม้ในภาวะวิกฤติ พร้อมกันนี้ เราก็เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ด้วย

ทางด้านการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้จัดตั้งทีมปฏิบัติการพิเศษประจำศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ หรือ BNIC ซึ่งทำงานร่วมกับระบบ AI เพื่อดูแลเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมด้านเครื่องมือ อุปกรณ์สำรอง และทีมเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลเสาสัญญาณ รวมถึงการเตรียมรถขับเคลื่อน 4 ล้อ และเรือท้องแบน สำหรับนำเครื่องปั่นไฟฉุกเฉินเข้าพื้นที่เสาสัญญาณที่ได้รับผลกระทบ

ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าในพื้นที่ประสบภัย โดยขยายวันใช้งานให้ลูกค้าเติมเงินเพิ่มอีก 7 วัน พร้อมระงับการตัดสัญญาณ และขยายเวลาชำระค่าบริการแก่ลูกค้ารายเดือนของทรูมูฟ เอช ดีแทค ทรูออนไลน์ และทรูวิชั่นส์ เพิ่มอีก 7 วันเช่นกัน

ทั้งนี้ ทีมปฏิบัติการพิเศษประจำ War Room ของทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ในทุกจังหวัดที่ประสบอุทกภัยและระวังเส้นทางมวลน้ำไหลผ่าน เพื่อเตรียมรับมือตามแผนปฏิบัติการฉุกเฉินเพื่อดูแลระบบสื่อสารในช่วงวิกฤติ และช่วยเหลือชุมชนที่ประสบภัย

รายงานข่าวจาก บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นที  เปิดเผยว่า  เอ็นที พร้อมเฝ้าระวังระบบสื่อสารโทรคมนาคม ตลอด 24 ชม.ในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.เชียงราย  และพร้อมช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ใช้บริการของ เอ็นที  โดยลูกค้าในพื้นที่ประสบภัย จ.เชียงราย ได้รับสิทธิทันที

บริการแบบเติมเงิน ขยายวันใช้งานบริการ my และ NT Mobile แบบเติมเงินเพิ่มอีก 15 วัน

บริการแบบรายเดือน ขยายเวลาชำระค่าบริการลูกค้า my และ NT Mobile แบบรายเดือนเพิ่มอีก 15 วัน และยกเว้นการระงับบริการชั่วคราวในเดือน ต.ค.67

NT Broadband  และ  บริการโทรศัพท์ประจำที่ (Fixed Line) ขยายเวลาชำระค่าบริการ ออกไปอีก 30 วัน