นับเป็นข่าวเศร้าวงการบันเทิง เมื่อ นายบุญฉลอง ภักดีวิจิตร หรือ ฉลอง ภักดีวิจิตร ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ผู้กำกับ–ผู้สร้างภาพยนตร์และละครโทรทัศน์) พ.ศ. 2556 ในวัย 93 ปี ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบ ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี เวลาประมาณ 15.30 น. ที่ผ่านมา ท่ามกลางความตกใจและอาลัยของแฟนๆ ทั้งประเทศ

ด่วน! ปิดตำนานระเบิดภูเขาเผากระท่อม ‘ฉลอง ภักดีวิจิตร’ เสียชีวิตสงบในวัย 93 ปี

สำหรับประวัติของ ฉลอง ภักดีวิจิตร นั้น เกิดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2474 เป็นบุตรคนที่ 4 จากทั้งหมด 5 คนของรองอำมาตย์โทพุฒ ภักดีวิจิตร ซึ่งรับราชการในกองแบบแผน กรมรถไฟหลวง กับมารดาชื่อลิ้นจี่ เข้าศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ โรงเรียนวัดสุทธิวราราม พี่น้องทุกคนล้วนอยู่ในวงการสร้างภาพยนตร์ทุกคน ได้แก่ วิจารณ์ ภักดีวิจิตร, เขียวหวาน ภักดีวิจิตร และวินิจ ภักดีวิจิตร นอกจากนี้ยังมีน้องชายของพุฒ ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของเขา คือ สด ภักดีวิจิตร (สดศรี บูรพารมย์) ก็เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ ส่วนพี่ชายอีกคน บุญศรี ภักดีวิจิตร ทำงานการรถไฟแห่งประเทศไทย อดีตวิศวกรกำกับการแผนกปรับประแจและเครื่องมือ กองโรงงานบำรุงทาง ฝ่ายการช่างโยธา

ฉลอง เริ่มเห็นการทำงานด้านภาพยนตร์ของครอบครัวตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ศึกษาที่โรงเรียนวัดสุทธิวรารามจนถึง ม.6 จากนั้น สำเร็จการศึกษาระดับเตรียมอุดมศึกษาปีที่ 2 จากโรงเรียนอำนวยศิลป์ ฉลอง ภักดีวิจิตร เข้าสู่วงการภาพยนตร์ด้วยการเป็นตากล้องมาก่อน โดยทำหน้าที่เป็นตากล้องถ่ายทำภาพยนตร์ตั้งแต่ยุค 16 มม. จนถึง 35 มม. ให้กับผู้สร้างภาพยนตร์หลายราย เช่น วัชรภาพยนตร์ ภาพยนตร์สหะนาวีไทย ธาดาภาพยนตร์ นพรัตน์ภาพยนตร นันทนาครภาพยนตร์ บูรพาศิลปะภาพยนตร์ รามาภาพยนตร์ ลดาพรรณภาพยนตร์ พิษณุภาพยนตร์ เป็นต้น ภาพยนตร์เรื่องแรก คือเรื่อง แสนแสบ ในปี พ.ศ. 2493 และยังได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง 2 ตัว สาขารางวัลผู้ถ่ายภาพยอดเยี่ยม ประจำปี 2507 จากเรื่อง ผู้พิชิตมัจจุราช ของ วัชรภาพยนตร์ นำแสดงโดย อดุลย์ ดุลยรัตน์-อาคม มกรานนท์–วิไลวรรณ วัฒนพานิช และในปี 2510 จากเรื่อง ละอองดาว ของภาพยนตร์สหะนาวีไทย นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี–พิศมัย วิไลศักดิ์-อดุลย์ ดุลยรัตน์

ฉลอง ได้เป็นตากล้องถ่ายภาพหลายปี มีผลงานภาพยนตร์อย่างเช่น สิงห์เดี่ยว (2505) 7 ประจัญบาน (2506) เขี้ยวพิษ (2506) เก้ามหากาฬ (2507) จ้าวพยัคฆ์ (2507) อินทรีมหากาฬ (2508) มงกุฎเพชร (2508) เทพบุตรนักเลง (2508) น้ำเพชร (2508) นกขมิ้น (2508) หยกแก้ว (2508) เสือเหลือง (2509) ลมหนาว (2509) นกแก้ว (2509) สายเปล (2510) จ้าวอินทรี (2511) แท็กซี่ (2511) แมวไทย (2511) สมิงเจ้าท่า (2512) รักยม (2512) ขัง 8 (2517) ไอ้เพชร (2519) เสาร์ 5 (2519) จำเลยรัก (2521) เสือเผ่น (2524) รักพลิกล็อก (2529) แด่เพื่อนพ้องและตัวกูเอง (2532) สงครามเพลงแผน 2 (2533) เป็นต้น หลังจากนั้นฉลองได้เป็นผู้อำนวยการสร้างและถ่ายภาพให้ภาพยนตร์ 16 มม. เรื่อง น้ำเพชร นำแสดงโดย มิตร–เพชรา สร้างขึ้นในนามบางกอกการภาพยนตร์ มี ส.อาสนจินดา สร้างบทภาพยนตร์และกำกับการแสดง ออกฉายเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2508

ต่อมาภาพยนตร์ที่ถือว่าสู่ตลาดต่างประเทศได้ประสบความสำเร็จคือเรื่อง ทอง (GOLD หรือ S.T.A.B.) นำแสดงโดย เกร็ก มอร์ริส (Greg Morris) พระเอกผิวสีของอเมริกา โด่งดังมาจากภาพยนตร์ซีรีส์เรื่อง ขบวนการพยัคฆ์ร้าย (Mission Impossible) โดยการติดต่อของ ดร.ดำริ โรจนเสถียร ฝ่ายจัดการต่างประเทศ และยังมีนางเอกชาวเวียดนามคือ เถิ่ม ถุย หั่ง ส่วนดาราไทยคือ สมบัติ เมทะนี, กรุง ศรีวิไล, อโนมา ผลารักษ์, ดามพ์ ดัสกร, ดลนภา โสภี, กฤษณะ อำนวยพร เป็นต้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้งบกว่า 10 ล้านบาท สามารถทำรายได้ทั้งในประเทศ ฉลองขายให้ฮ่องกงและไต้หวัน และโดยเฉพาะที่อเมริกา ขายให้หนึ่งล้านดอลลาร์ (20 ล้านบาท) นอกจากนี้ ในการประกาศรางวัลตุ๊กตาทองประจำปี 2517 โดยสมาคมหอการค้าไทย ทองก็ได้รับรางวัล 3 ตุ๊กตาทอง คือ รางวัลยอดเยี่ยมลำดับภาพและตัดต่อ รางวัลยอดเยี่ยมถ่ายภาพ และรางวัลยอดเยี่ยมบันทึกเสียง


ภาพยนตร์เรื่อง ตัดเหลี่ยมเพชร (H-Bomb) ในปี พ.ศ. 2518 นำดาราฮอลลีวูดคู่พระนางจากเรื่อง นักฆ่าเพลินสวาท (The Summertime Killer) นั่นคือ โอลิเวีย ฮัสซีย์ ที่โด่งดังจากจากภาพยนตร์เรื่อง โรมิโอกับจูเลียต และคริสโตเฟอร์ มิทซัม (บุตรชายของ โรเบิร์ต มิทซัม) มาแสดงคู่กับ กรุง ศรีวิไล และภาวนา ชนะจิต ร่วมแสดงโดย ไพโรจน์ ใจสิงห์, มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช, กฤษณะ อำนวยพร, เกชา เปลี่ยนวิถี เป็นต้น

ด้านชีวิตส่วนตัว ฉลอง ภักดีวิจิตร สมรสกับสุมน ภักดีวิจิตร เมื่อปี พ.ศ. 2509 มีบุตรด้วยกันสามคนคือ เฉิด, กัญจน์ และบุญจิรา ภักดีวิจิตร แต่ภายหลังสุมนเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับเมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2557 และปลายปีหลังจากที่ภรรยาเสียชีวิตนั้น ฉลองได้สมรสใหม่กับ พิมพ์สุภัค อินทรี วัย 38 ปี โดยเข้าพิธีแต่งงานที่จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม หลังจากที่ทั้งสองคบหากันตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีเดียวกัน จากน้้นทั้งสองคนก็อยู่ด้วยกันอย่างไม่หวือหวา ก่อนที่จะมีข่าวว่าอาหลองได้ล้มป่วยและซูบผอมลง และมีข่าวเรื่องการเสียชีวิตในที่สุด.