เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ซึ่งรับน้ำมาจากภาคเหนือ ทำให้น้ำในพื้นที่น้ำยมสายเก่า ที่รับน้ำจาก จ.สุโขทัย ผ่าน อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ อ.เมืองพิษณุโลก ไหลเข้าสู่ทุ่งบางระกำโมเดล ที่สามารถกักน้ำได้กว่า 400 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีปริมาณน้ำที่รับเข้าพื้นที่ 143,415 ไร่ หรือ 54% ขณะที่ปริมาณน้ำ 247 ล้าน ลบ.ม หรือ 62% แล้ว และส่งผลให้ชาวบ้านที่อยู่ริมตลิ่งแม่น้ำยม ยังคงได้รับผลกระทบ

ล่าสุดเช้าวันนี้ นายเดชา พุฒิกานนท์ หัวหน้าศูนย์เดลินิวส์ภาคเหนือตอนล่าง จ.พิษณุโลก พร้อมด้วยพล.ต.กฤษณะ ภู่ทอง ผบ.มทบ.39 และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพิษณุโลก และภาคีเครือข่าย ได้นำถุงยังชีพไปมอบให้กับชาวบ้าน ในพื้นที่ หมู่ 2 บ้านปากคลองชุมแสง ต.ชุมแสงสงคราม และ ที่คุ้มแม่ย่า บ้านคลองปากลาย ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก รวมจำนวนทั้งสิ้น 450 ชุด เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับให้กำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัย

ด้านนายชำนาญ ชูเที่ยง ชลประทานจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า สถานการณ์น้ำแม่น้ำยมสายหลัก ที่ไหลผ่าน อ.บางระกำ มีแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และระดับสูงกว่าวิกฤติในเขตชุมชนในส่วนแม่น้ำยมสายเก่าที่ไหลผ่าน อ.พรหมพิราม อ.เมือง ลงมา อ.บางระกำ ระดับน้ำยมสายหลัก เริ่มทรงตัว ที่สถานีวัดน้ำ Y.64 ระดับน้ำสูง 7.96 ม. ปริมาณน้ำไหลผ่าน 575.60 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง +1.56 เมตร/ สูงกว่าระดับวิกฤติ เขตชุมชน +0.66 เมตร ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน – ซม. และมีแนวโน้มลดลง

โดยวันที่ 13-18 ก.ย. 67 มีรายงานว่าจะมีฝนตกชุก และฝนตกสะสมปริมาณมาก ในพื้นที่ภาคเหนือ อาจเกิดน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ และน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยในจังหวัดพิษณุโลก มีพื้นที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ อ.นครไทย (แม่น้ำแควน้อย) อ.วังทอง (แม่น้ำวังทอง) อ.เนินมะปราง และ อ.บางกระทุ่ม (แม่น้ำชมพู) อ.บางระกำ, อ.พรหมพิราม (พื้นที่ลุ่มต่ำ แม่น้ำยมสายหลักและแม่น้ำยมสายเก่า) จึงขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังดังกล่าวโดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง หากมีปริมาณฝนตกชุกในพื้นที่ สะสมเกินกว่า 50 มม. และพื้นที่อยู่อาศัยอยู่ใกล้กับตลิ่งแม่น้ำ ให้เฝ้าระวัง และตรวจสอบจุดที่ตลิ่งต่ำ ควรเสริมคันคลองให้มีความแข็งแรง และเตรียมความพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และระมัดระวังไฟฟ้าที่อยู่ในที่ต่ำน้ำท่วมถึง

ขณะที่ จ.สุโขทัย เวลา 13.00 น. คณะได้นำถุงยังชีพลงเรือท้องแบนจากมูลนิธิฯ พร้อมอาสาสมัครกู้ภัยเทพนิมิตกงไกรลาศ นำถุงยังชีพมูลนิธิแสง-ไซ้กี เหตระกูล หนังสือพิมพ์เดลินิวส์และเดลินิวส์ออนไลน์ มอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม อ.กงไกรลาศ จำนวน 100 ชุด บ้านวังไผ่สูง หมู่ 8 ต.ไกรนอก มีน้ำท่วมขัง 26 ครัวเรือน ซึ่งอยู่ด้านท้ายปลายน้ำยมของจังหวัดสุโขทัย ทำให้มีปริมาณน้ำท่วมขัง ส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านต้องอาศัยพายเรือเข้าออก และที่บ้านเกาะกง ซึ่งอยู่ติดริมแม่น้ำยม คาดว่าระดับน้ำจะท่วมนานที่สุดของจังหวัดและยาวไปถึงช่วงลอยกระทง ก่อนที่มวลน้ำเหล่านี้จะไหลออกไปสู่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ชาวบ้านต้องอาศัยเรือเข้าออกบ้านแทน ทำมาหากินก็ลำบากซึ่งปกติเวลาไม่มีน้ำก็สามารถเดินข้ามสะพานเข้าออกได้ปกติ ซึ่งตั้งแต่ตนจำความได้บ้านก็จะถูกน้ำท่วมแบบนี้ทุกปี

สำหรับพื้นที่ประสบภัยทั้งหมดของจังหวัดสุโขทัยในครั้งนี้ประกอบด้วยพื้นที่ 7 อำเภอ 46 ตำบล 213 หมู่บ้าน อ.ศรีสัชนาลัย อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.ศรีนคร อ.เมืองสุโขทัย อ.คีรีมาศ และอ.กงไกรลาศ เกษตรกรประสบภัย 10,981 ครัวเรือน พื้นที่ประสบภัย 85,900 ไร่.