วันที่ 13 ก.ย. ที่วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดการประชุมการเตรียมความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จากการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในท้องถิ่น ท่ามกลางความสนใจจากผู้บริหารท้องถิ่น, หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน และนักวิชาการด้านสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมประชุมอย่างพร้องเพรียง

นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดได้เรียกประชุมด่วน 6 นายอำเภอ ที่มีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดสถานการณ์ดินโคลนถล่ม ประกอบด้วย อ.ภูผาม่าน, มัญจาคีรี, ชุมแพ, แวงน้อย, สีชมพู และ อ.อุบลรัตน์ เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดสถานกรณ์ในพื้นที่จากพายุฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ โดยให้ทุกอำเภอเตรียมแผนอพยพ แผนรับมือ และเร่งซักซ้อมร่วมกับชุมชนในแต่ละพื้นที่ เพื่อที่จะสามารถบริหารจัดการเหตุการณ์ได้ทันที หากเกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นในระยะนี้ 

“ผมสั่งการไปแล้วว่า นายอำเภอและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง และรับผิดชอบโดยตรงในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและหน่วยสนับสนุนทุกฝ่าย ต้องอยู่ในพื้นที่ ครอบคลุมทั้ง 26 อำเภอของจังหวัด เพื่อที่จะบัญชาการเหตุการณ์และจัดระบบการให้ความช่วยเหลือ แก้ไขสถานการณ์และให้การช่วยเหลือพื้นที่ที่ประสบภัย ทั้งในเรื่องของดินโคลนถล่ม น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือช่วงวันหยุดต่างๆ ที่มักจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ดังนั้นจากนี้ไป จังหวัดจะต้องเพิ่มมาตรการที่รัดกุม และมีความเข้มข้นและเข้มงวด ในเรื่องของอุทกภัยภาพ รวมทั้งจังหวัดตลอดทั้ง 24 ชม.”

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่า การระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ ขณะนี้ยังคงระดับอยู่ที่ 20 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน โดยปริมาณน้ำล่าสุดเช้าวันนี้ ยังคงอยู่ที่ร้อยละ 40 ของความจุอ่าง หรือประมาณ 900 ล้าน ลบ.ม. จึงต้องมีการหารือร่วมกันของทุกฝ่ายในการบริหารจัดการน้ำในภาพรวม และเฝ้าติดตามสถานการณ์ในกลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำพอง แม่น้ำชี และแม่น้ำโขง รวมทั้งลำน้ำสาขา จากสถานการณ์น้ำในพื้นที่ข้างเคียงอย่างเคร่งครัด เพราะขอนแก่น จะเป็นพื้นที่รับน้ำของกลุ่มภาคอีสานตอนกลาง อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนที่ผ่านมา จังหวัดได้มีการพร่องน้ำในแม่น้ำชีและแม่น้ำพอง ตามแผนการบริหารจัดการน้ำไปแล้วกว่า 1,000 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่รับน้ำได้อีกจำนวนมาก ทั้งยังคงกับให้ อปท. ประสานงานร่วมปกครองและอำเภอ ตรวจสอบสภาพตลิ่งตามแนวเขตแม่น้ำพองและแม่น้ำชี ในระยะนี้เพิ่มเติมไปด้วย เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า มวลน้ำจากพายุที่ตกลงมานั้นจะเข้าพื้นที่ขอนแก่น ในช่วงเดือน ต.ค. ที่จะถึงนี้ จึงต้องวางแผนรับมือและบริหารจัดการในภาพรวมไว้อย่างรัดกุม