นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ให้สัมภาษณ์ “ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” ว่า วันที่ 19 ก.ย. นี้กรมทางหลวง (ทล.) จะลงนามสัญญาร่วมทุนกับกลุ่มกิจการร่วมค้าอาร์อี ประกอบด้วย บริษัท ปตท. บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด (ผู้นำกลุ่ม) และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์วิศวกรรมจำกัด ผู้ชนะประมูลโครงการเอกชนร่วมลงทุนพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทาง (Rest Area) บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 (M7) สายกรุงเทพมหานคร-บ้านฉาง โครงการศูนย์บริการทางหลวงศรีราชา ใช้วงเงินก่อสร้างประมาณ 1 พันล้านบาท
ลักษณะร่วมทุนรูปแบบ PPP Net Cost ทล. จะส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนลงทุนก่อสร้างที่พักริมทางและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ รวมถึงบริหารจัดการและดูแลบำรุงรักษาโครงการฯ ตลอดจนเป็นผู้มีสิทธิบริหารจัดการเชิงพาณิชย์และเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในรายได้ของโครงการฯ โดยต้องชำระค่าตอบแทนให้ ทล. ตามเงื่อนไขที่กำหนด ภายในระยะเวลา 32 ปี หลังลงนามสัญญาจะเร่งรัดให้เริ่มก่อสร้างทันทีภายในปี 67 เพื่อเปิดบริการสิ่งอำนวยความสะดวกบางส่วนในปี 68 อาทิ ห้องสุขา ที่จอดรถ และพื้นที่พักผ่อน พร้อมเปิดบริการเต็มรูปแบบในปี 69
โครงการศูนย์บริการทางหลวงศรีราชาจะเป็นจุดพักที่ครบวงจรแห่งแรกและใหญ่ที่สุดในพื้นที่ 118 ไร่ แบ่งพื้นที่เป็น 2 ฝั่ง ขนาดพื้นที่ฝั่งละ 59 ไร่ อยู่บริเวณ กม.93+500 มอเตอร์เวย์ M7 ช่วงชลบุรี-พัทยา ระหว่างทางแยกต่างระดับบางพระ (คีรี) และทางแยกต่างระดับหนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ด้วยแนวคิดการออกแบบ The Rest Village ศูนย์รวมบริการแวะพักระหว่างการเดินทางด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียมครบครัน อาทิ ที่จอดรถ ห้องน้ำ ร้านค้าลักษณะคอมมูนิตีมอลล์หรือศูนย์การค้าขนาดเล็ก อาทิ เท็กซัส ชิคเก้น ทรูคอฟฟี่ ร้านสะดวกซื้อ ศูนย์อาหาร-เครื่องดื่ม (Food world) สถานีบริการน้ำมันปตท. สถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า พื้นที่เดินเล่น นั่งเล่น พักผ่อน พื้นที่สวน ศูนย์บริการข้อมูลจราจรและเส้นทาง ตลอดจนศูนย์ปฐมพยาบาล หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินและระงับอัคคีภัย เพื่อบริการผู้ใช้มอเตอร์เวย์ M7 ซึ่งมีปริมาณการจราจรกว่า 2.5 แสนคันต่อวัน
รวมทั้งเป็นแห่งแรกที่จะมีอาคารยกระดับคร่อมกลางเส้นทางมอเตอร์เวย์ พร้อมทางเดินเชื่อม 2 ฝั่ง รองรับการใช้พื้นที่ร่วมกัน สะดวกสบายด้วยบันไดเลื่อน จะช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทาง ได้พักผ่อนเปลี่ยนอิริยาบถ ทำธุระส่วนตัว ใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากความเหนื่อยล้า ง่วงหรือหลับใน ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวระบบเศรษฐกิจและการจ้างงานด้วย
