เมื่อวันที่ 12 ก.ย. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย (มท.) กล่าวว่า หลังจากได้ประชุมมอบนโยบายแก่เจ้าหน้าที่ในพื้นอุทกภัย จ.เชียงรายและ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ยังได้ติดตามผลการเข้าช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยอย่างใกล้ชิด ซึ่งจากรายงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ทราบว่าขณะนี้ใน จ.เชียงราย สถานการณ์น้ำท่วมยังคงขยายวงกว้างมากขึ้น 


“ท่าน มท.1 ได้ประสานกับท่าน อธิบดี ปภ. อย่างใกล้ชิด เพื่อการตัดสินใจสนับสนุนการช่วยเหลือที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 เชียงราย ได้ส่งทีมทั้งกำลังคน เครื่องจักรกลสาธารณภัย เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจ เช่น รถไฟฟ้าส่องสว่างขนาด 200 KVA รถผลิตน้ำดื่ม รถขนย้ายผู้ประสบภัย รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถลากเรือเคลื่อนที่เร็ว รถบรรทุกเล็ก เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ เรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ และเสื้อชูชีพ และได้ประสานไปยังศูนย์ฯ อื่นๆ เพื่อนำเครื่องจักรและเจ้าหน้าที่เข้าสนับสนุนด้วย” น.ส.ไตรศุลี กล่าว 


น.ส.ไตรศุลี กล่าวถึงกรณีที่ในสื่อโซเชียลมีเดียได้มีข้อวิจารณ์เกี่ยวกับเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 ไม่ถูกนำขึ้นบินในช่วงฝนฟ้าคะนองนั้น เป็นกรณีที่ ปภ. ได้ประเมินและปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยของการปฏิบัติงาน และเมื่ออากาศเอื้ออำนวยแแล้วก็ได้รีบนำเฮลิคอปเตอร์เข้าสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนทันที  โดยล่าสุดในวันนี้ หลังจากประเมินสภาพอากาศว่ามีความปลอดภัยแล้ว ปภ. ได้ร่วมกับกองทัพบก (ทบ.) นำเฮลิคอปเตอร์ฯ KA-32 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยประจำ ฮ.ปภ.32 “The Guardian Team” ออกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ติดอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย จำนวน 3 ราย และเป็นผู้ป่วยติดเตียง 1 ราย รวมถึงปฏิบัติภารกิจลำเลียงอาหารและน้ำดื่ม เพื่อส่งให้กับครู–นักเรียน จำนวน 140 ชีวิต ณ โรงเรียนสามัคคีพัฒนา บ้านม้งเก้าหลัง อ.แม่ฟ้าหลวง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สาธารณูปโภคถูกตัดขาด ทั้งน้ำ ไฟฟ้า และสัญญาณโทรศัพท์ เนื่องจากดินสไลด์ปิดทับถนน และเสาไฟฟ้าหัก.