สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ว่าสำนักงานสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (โอเอ็นเอส) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เติบโตเป็นศูนย์เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สวนทางกับเป้าหมายของรัฐบาลชุดใหม่จากพรรคแรงงาน ซึ่งประกาศให้การเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นวาระเร่งด่วน

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรอาจเติบโตเพียงเล็กน้อย เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่สถิติต่าง ๆ ชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรประสบกับภาวะชะลอตัว มาตั้งแต่ไตรมาสที่สอง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

นางราเชล รีฟส์ รมว.คลังสหราชอาณาจักร กล่าวถึงรายงานดังกล่าวว่า เธอไม่ได้อยู่ใน “ภาพลวงตา” ของขนาดของอุปสรรคที่ต้องเผชิญ และเธอจะพูดความจริงแก่ประชาชนว่า การเปลี่ยนแปลงจะไม่เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน “แนวโน้มเชิงบวกในช่วง 2 ไตรมาสแรก ไม่สามารถช่วยชดเชยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำตลอด 14 ปีที่ผ่านมาได้” รีฟส์กล่าว โดยระบุว่า นี่เป็นเหตุผลว่า เพราะเหตุใดต้องมีการตัดสินใจในระยะยาว เพื่อแก้ปัญหาที่รากฐาน

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้รับการสนับสนุนในชั่วข้ามคืน หลัง “แอมะซอน” ยักษ์ใหญ่ของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโลกจากสหรัฐ ประกาศเตรียมการลงทุน 8,000 ล้านปอนด์ (ราว 351,775 ล้านบาท) เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลที่สหราชอาณาจักร ภายในระยะเวลาอีก 5 ปีข้างหน้า

แถลงการณ์ของแอมะซอนระบุว่า ศูนย์ข้อมูลแห่งนี้อาจมีส่วนสนับสนุนจีดีพีของสหราชอาณาจักร ได้มากถึง 14,000 ล้านปอนด์ (ราว 615,606 บาท) และสร้างงานเพิ่มมากกว่า 14,000 ตำแหน่ง.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES