พระวชิรรัตนาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส และเลขานุการวัดอรุณราชวราราม กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับกรมศิลปากร และทีมสำรวจ ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อติดตามงานสำรวจพระปรางค์วัดอรุณฯ หลังจากที่เมื่อปี 2566 กรมศิลปากรได้สำรวจพระปรางค์วัดอรุณฯ ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ จากการสแกนพบว่าพระปรางค์ประธานมีการยุบตัวลง และการยุบตัวลงนี้ส่งผลให้พระปรางค์ทิศทั้ง 4 รวมทั้งมณฑปทั้ง 4 ทิศได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งทางกรมศิลปากรอธิบายในเรื่องการยุบตัวนี้ว่า อาจเกิดจากการยุบตัวเดิมตอนสร้างเสร็จใหม่ๆ หรืออาจจะเป็นการยุบตัวจากผลกระทบหลายอย่าง แต่ไม่มีอะไรต้องกังวล ทั้งจะมีการปรับการสำรวจจากเดิมเมื่อปี 2566 จะสำรวจทุก 3 เดือน แต่จากการสำรวจครั้งล่าสุด ได้มีความเห็นตรงกันว่า จะสำรวจปีละ 1 ครั้ง ซึ่งทางกรมศิลปากรได้มีการฝังหมุด 94 หมุด เพื่อดูความเคลื่อนขององค์พระปรางค์ พร้อมทั้งจะมีการสำรวจดูฐานขององค์พระปรางค์ด้วย เพื่อดูโครงสร้างของฐานเก็บไว้เป็นข้อมูล

พระวชิรรัตนาภรณ์ กล่าวต่อไปว่า จากเดิมที่มีการสำรวจพบความเอียงและยุบตัวขององค์พระปรางค์ เมื่อปี 2566 ก็เกิดความกังวลใจ แต่เมื่อทราบข้อมูลจากทางกรมศิลปากรในเรื่องมุมความเอียงขององค์พระปรางค์ ก็คลายความกังวลลงได้ เพราะมุมที่เอียงไม่ได้เอียงไปทางฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จึงตัดความกังวลในเรื่องน้ำกัดเซาะตลิ่งแล้วทำให้พระปรางค์ยุบตัวลงไปได้ นอกจากนี้จากการสำรวจด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ของทางกรมศิลปากร ยังทำให้ทราบข้อมูลที่ชัดเจนขององค์พระปรางค์วัดอรุณฯ ด้วย จากเดิมที่มีการจำกันมาว่า พระปรางค์วัดอรุณฯ มีความสูง 68 เมตร หรือขนาดอื่นๆ แต่ขณะนี้ทราบข้อมูลที่ชัดเจนจากทีมสำรวจแล้วว่า ความสูงของพระปรางค์วัดอรุณฯ จากฐานถึงยอด คือ 61.20 เมตร เส้นรอบฐาน 228.50 เมตร