เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำป่าท่วมทะลักในพื้นที่จังหวัดเชียงรายว่า ขณะนี้ตนได้ประชุมติดตามความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมที่จะส่งกระทบต่อโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาใน จ.เชียงราย แล้วว่า จะมีแนวทางการช่วยเหลือนักเรียนและครูอย่างไรบ้าง ทั้งมาตรการหลังน้ำลด และระหว่างที่น้ำกำลังท่วมอยู่ โดยเบื้องต้นได้โทรศัพท์สายตรงประสานอธิบดีกรมป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เพื่อส่งพิกัดโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จนมีนักเรียนติดอยู่ในโรงเรียนกว่า 100 คน ที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้นักเรียนและครูทั้งหมดกว่า 100 คน ได้รับการช่วยเหลือและมีหน่วยงานเข้าไปให้จัดส่งอาหารเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ของเขตพื้นที่ลุยน้ำเข้าช่วยเหลือและแจกจ่ายอาหารพร้อมน้ำดื่มให้กับนักเรียนและครูด้วยเช่นกัน

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น สพฐ. ได้แจ้งทำแผนเผชิญเหตุและแจ้งเตือนให้โรงเรียนเฝ้าระวังตั้งแต่น้ำท่วมรอบแรกแล้ว ส่วนหลังน้ำลดเราจะมีการฟื้นฟูโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบ โดยจัดสรรงบประมาณเหลือจ่ายของ สพฐ. ลงไปดูแลเยียวยาทั้งระบบไฟฟ้า สื่อการสอน อุปกรณ์โต๊ะเก้าอี้เรียน รวมถึงปรับปรุงอาคารเรียนด้วย ซึ่งโรงเรียนชุดแรกที่โดนน้ำท่วมก็จะมีการจัดสรรงบช่วยเหลือไปแล้วเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ตนมีหนังสือสั่งการให้ทุกโรงเรียนทั่วประเทศเป็นจุดพักพิงชั่วคราว กรณีที่ผู้ปกครองได้รับผลกระทบไม่สามารถเดินทางมารับนักเรียนได้ จึงให้นักเรียนอยู่ในความดูแลของครูด้วย

สำหรับรายงานข้อมูลการติดตามสถานศึกษาที่ประสบเหตุอุทกภัยในจังหวัดเชียงรายล่าสุด พบว่ามี 2 เขตพื้นที่การศึกษาที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เชียงราย กระทบ 12 โรงเรียน และ 1 สำนักงานเขต และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) เชียงราย เขต 3 น้ำ กระทบจำนวน 15 โรงเรียน ซึ่งในจำนวนนี้มีครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับผลกระทบ จำนวน 50 คน และนักเรียนจำนวนกว่า 116 คน