จากกรณีเกิดกระแสนิติสงครามทางการเมืองไทย เมื่อฝ่ายรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ต่างถูกร้องเรียนให้ตรวจสอบคุณสมบัติและจริยธรรม กันอย่างต่อเนื่อง แต่ล่าสุดฝ่ายค้านก็มีการถูกร้องตรวจสอบเช่นเดียวกัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 11 ก.ย. นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความคดี นายตุน มิน ลัต เปิดเผยว่า นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ (ส.ส.)บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กำลังดำเนินบทบาท ส.ส. ที่อาจขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 ซึ่ง บัญญัติไว้ว่า “…ส.ส. และ สว. ต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งกระทำการเพื่อผลประโยชน์ของตน ผู้อื่น พรรคการเมือง ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม แทรกแซงการปฏิบัติราชการ หรือทำงานในหน้าที่ของข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ, พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น…”
โดย นายเรืองศักดิ์ ตั้งข้อสังเกตว่า นายรังสิมันต์ ใช้บทบาทในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ เรียกหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงยุติธรรม คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) จเรตำรวจแห่งชาติ สำนักตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติดมาให้ข้อมูล โดยกำหนดวาระการประชุมถึง 2 ครั้ง คือ วันที่ 29 สิงหาคม และ วันที่ 11 กันยายน 2567 พิจารณาศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขเกี่ยวกับการอายัดทรัพย์คดียาเสพติด การฟอกเงิน และการใช้บัญชีม้าในขบวนการยาเสพติดที่เชื่อมโยงกับอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
แต่ในข้อเท็จจริงกลับมีการยัดไส้เรียกข้อมูล ข้อเท็จจริง กรณี “คดีนายทุน มิน ลัต” ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล และนายรังสิมันต์ มีส่วนได้เสียกับคดีดังกล่าว เนื่องจากมีการกล่าวหา นายอุปกิต ปาจรียางกูร อดีตสมาชิกวุฒิสภา อย่างปราศจากข้อเท็จจริงว่า เกี่ยวข้องกับคดีและนายอุปกิตได้ฟ้อง นายรังสิมันต์ ข้อหาหมิ่นประมาท รวม 3 คดี เรียกค่าเสียหายรวม 140 ล้าน โดยคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลเช่นเดียวกัน
นายเรืองศักดิ์ กล่าวด้วยว่า การเรียกข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ อาจส่งผลกระทบต่อรูปคดีซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล รวมถึงเป็นการใช้สถานะ ส.ส.แทรกแซงอำนาจการปฏิบัติราชการ เพื่อประโยชน์ของตน ซึ่งอาจเป็นการกระทำที่ขัดต่อประมวลจริยธรรม ทั้งนี้ หากนายรังสิมันต์ มั่นใจในความบริสุทธิ์ก็ขอให้ไปต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่ควรใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง เลื่อนนัดศาลมาโดยตลอด และหากนายรังสิมันต์ ยังมีพฤติกรรมเช่นนี้ ตนจะร้องเรียนต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร์และ ปปช.ให้สอบจริยธรรมเพื่อถอดถอนนายรังสิมันต์ออกจากตำแหน่ง ส.ส.ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 67 ที่ผ่านมา นายรังสิมันต์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเผยแพร่ข้อความเกี่ยวกับ การประชุมหารือ “Poetry of กมธ.ความมั่นคงฯ” [ครั้งที่ 42] โดยระบุความเห็นในช่วงท้ายพาดพิงถึงคดี ทำให้อีกฝ่ายต้องใช้ช่องทางของกฎหมายตรวจสอบเรื่องราวดังกล่าว
