เกิดกระแสฮือฮาทางการเมืองอย่างมาก จากที่ในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ ออกอากาศเมื่อช่วงเช้าวันที่11 ก.ย. ได้นำคลิปหลุดเสียงสนทนา 4 คลิป ออกมาเผยแพร่ เนื้อหาคลิปแรก อ้างเป็นบทสนทนาระหว่างชาย 4 คน หนึ่งในนั้นพูดในวงสนทนาว่า “ผมเป็นรอง ทำงานให้กับท่านนายกฯมานาน ทำสำเร็จหลายเรื่อง ต่อไปนี้ผมอยากจะขอให้ประชาชนให้ผมได้ลองนั่งเบอร์ 1 ดูบ้างนะ ผมจะขอ” ขณะที่มีเสียงชายคนหนึ่งหัวเราะ พร้อมกล่าวเสริมขึ้นมาว่า “ก็สื่อออกไปบ้าง” เช่นนี้ … ซึ่งน่าสนใจ “ใครอยากเป็นนายกฯ ?”

Created with GIMP

คลิปที่ 2 เป็นสนทนาระหว่างผู้ชาย 2 คน โทรศัพท์พูดคุยกัน โดยชายคนแรก ระบุว่า “ไอ้โอ๋ จะให้กูออกจากหัวหน้าพรรคหรือ” ด้านปลายสายตอบกลับเสียงลนลานว่า “ผมไม่ได้พูดครับ ผมไม่ได้พูดครับนาย” ชายคนแรกจึงตอบว่า “ไม่มีออกเลยนะ มึงจำไว้” ชายที่ถูกเรียกว่า โอ๋ ตอบว่า “ผมไม่ได้พูดครับนาย ผมไม่ได้พูด” ชายคนแรกถามต่อ “แล้วแบ่งเงิน แบ่งทองกันยังไง” ชายที่ถูกเรียกว่า โอ๋ ตอบ“ผมไม่ทราบครับนาย” ชายคนแรกจึงพูดอีก “แล้วรับเงินมาแล้วไม่จ่ายไง แล้วเงินจ่ายที่ไหน บอกว่าเอามาให้กูจ่ายไง แล้วไง” ชายที่ถูกเรียกว่า โอ๋ ตอบว่า “วันจันทร์ผมเข้าไปเล่าให้ฟังครับ” ..คลิปนี้เป็นการพูดเรื่องเงินๆ ทองๆ เสียด้วย..ใครหา ? หาจากไหน ? แล้วเอามาให้ใครจ่าย ?

คลิปที่ 3 เป็นเสียงสนทนาของผู้ชาย 2 คน คล้ายเป็นการรายงานให้อีกฝ่ายทราบ เรื่องการจัดทัพของกระทรวงหนึ่ง มีการกล่าวถึงชื่อ “รองชัยวัฒน์” รวมทั้ง “ขจร” โดยการสนทนากันระบุ “ขจรเนี่ยดีแล้ว พูดรู้เรื่อง” ซึ่งคลิปที่3 ทางผู้ดำเนินรายการระบุว่าอาจเป็นกระทรวง กรม หรือหน่วยงาน ที่อยู่บริเวณถนนราชดำเนินไปทางคลองหลอด ต่อมา นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยอมรับว่า เป็นเสียงตนเองสนทนากับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ( พปชร.) พูดเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่ “บิ๊กป้อม”เป็นรองนายกฯดูมหาดไทย

คลิปที่4 เป็นการสนทนาระหว่างชาย2 คน คนแรกเป็นการรายงานผลงานของตัวเองที่เคยยื่นยุบพรรคการเมืองหนึ่งมาแล้ว ให้ชายอีกคนทราบโดยเสียงช่วงหนึ่งระบุว่า “เพื่อจะเป็นบรรทัดฐาน ใครจะเอาเรื่องสถาบันมาก็มัดคอได้ เดี๋ยวผมร่าง ส่วนของเรืองไกรเป็นแค่เรื่องคุณสมบัติเฉพาะที่ทำขึ้น ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้ก็ยากที่จะตัดข้อวินิจฉัยของศาล ของเรืองไกรก็ได้ข่าวดี แต่ถ้าร้องเอาเรื่องในอดีตที่เคยวินิจฉัย เช่น 112 ก็จะค่อยๆบั่นทอน ซึมซับ สุดท้ายก็มีปัญหากับท่าน เดี๋ยวผมทำก็เหมือนตอนที่ยุบไทยรักษาชาติ ( ทษช.) เพราะคนที่ทำก็ไม่รู้ว่าจะมีข้อกฎหมายใดเล่นงานได้ ขอให้ผมช่วยคิด สุดท้าย จึงจัดการไทยรักษาชาติ” ( ทษช.คือพรรคที่ถูกยุบเพราะเสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี )

คลิปนี้เป็นคลิปที่น่าสนใจที่สุด เพราะมันฟ้องว่า “มีการใช้ ม.112 เล่นงานกันทางการเมือง” ขนาดมีคนพร้อมยกร่างให้นักร้อง ซึ่งเรื่องนี้อาจเกิดแรงกระเพื่อมในฝ่ายการเมือง และหันมาเห็นปัญหา“นิติสงคราม” ชัดขึ้น เช่นนี้แล้ว ..แต่ละพรรคที่ไม่สนับสนุนแก้ ม.112 ไม่สนับสนุนนิรโทษกรรม จะต้องคิดว่า ทำอย่างไรไม่ให้เอามาตรานี้มากลั่นแกล้งกัน

เพราะเหตุใดจึงหลุดออกมาตอนนี้ ? หลังจากที่มีข่าวว่า จะมีมือดีปล่อยคลิปหลุดว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ครอบงำพรรคเพื่อไทย ไปจัดรัฐบาลในบ้านจันทร์ส่องหล้า และมีข่าวที่พรรค พปชร. จะตั้งกรรมการสอบ สส.กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา กระทำการขัดต่อมติพรรค แต่จะไม่ขับออก และในวันที่ 12 ก.ย.รัฐบาลก็แถลงนโยบายต่อรัฐสภาด้วย เรื่องคลิปเสียงอาจดึงความสนใจของสังคม และพุ่งเป้ามาที่พรรคพลังประชารัฐ ( พปชร.)

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ฐานะรองโฆษกพรรค พปชร. คนใกล้ชิด“บิ๊กป้อม” โต้ว่า อาจเป็นเสียงทำโดยเอไอก็ได้ และพยายามทำให้เหมือนคลิปหลุด มั่นใจได้อย่างไรว่าคลิปเป็นของจริง ไม่เชื่อว่าเป็นเสียงของ พล.อ.ประวิตร

“จ๊อบ สามารถ” ยังจะเหน็บให้เจ็บๆ หรืออาจเป็นอารมณ์ฟาดงวงฟาดงาว่า ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ( บ้านพักนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ) น่าจะมีคลิปมากกว่าบ้านป่ารอยต่อ ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ไต่สวนหาพยานหลักฐานคดีครอบงำพรรคควรไปหา ประชาชนน่าจะสนใจคลิปที่บ้านจันทร์ส่องหล้ามากกว่า พร้อมย้ำว่า พล.อ.ประวิตรเป็นบุคคลที่ควรนับถือหัวใจ ทุกครั้งที่โดนกระทำก็ไม่เคยออกมาตอบโต้ เป็นผู้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว คิดว่าพล.อ.ประวิตรคงไม่ได้รู้สึกเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง ส่วนอนาคตถ้าเป็นคลิปเรื่องคอขาดบาดตาย ก็ขอให้ค่อยว่ากัน

เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นฉาวทางการเมืองที่น่าจับตาดูยิ่งยวดนาทีนี้ ว่า “บ้านป่ารอยต่อ”จะโดนศึกจากฝั่งไหนบ้าง “บ้านใหญ่พะเยา” หรือ“บ้านจันทร์ส่องหล้า” …บ้านป่ารอยต่อจะโดนอะไรบ้าง จะถึงขั้นทุบให้พรรคแตกกันเลยหรือไม่ หลังคลิป 4 ที่มีการอ้างกฎหมาย ม.112 เพื่อเล่นงานคนอื่นถึงขั้นอวดอ้างว่าเคยใช้ยุบไทยรักษาชาติได้หลุดออกไป ..สถานะของพรรคขณะนี้ก็ง่อนแง่น โดยมีข่าวว่า อดีต สส.หรืออดีตผู้สมัครคะแนนสูงๆ ทยอยลาออกจากพรรคไปหลายคน เช่น กลุ่มตระกูลรัตนเศรษฐ์ เนื่องจากไม่ชอบนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคคนใหม่ แต่นายสามารถได้ปฏิเสธว่าเรื่องไม่ชอบนายไพบูลย์นั้นไม่จริง

วันที่ 12-13 ก.ย. รัฐบาลจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งกำหนดไว้เบื้องต้น 29 ชม. “นายกฯอิ๊งค์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร”ได้สั่งการให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงลุกขึ้นตอบทันที หลังจากที่ฝ่ายค้านอภิปราย เพราะตั้งแต่ตั้งรัฐบาลมารัฐมนตรีทุกคนก็ทำงานกันอยู่แล้ว จึงอยากให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบตอบเอง นายกฯ จะตอบในภาพรวม นโยบายเรื่องดิจิทัล วอลเล็ต นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง จะเป็นคนแถลงในรายละเอียดทั้งหมด

นายกฯอิ๊งค์ยอมรับว่า เรื่องดิจิทัลวอลเลต มีความแตกต่างกับครั้งที่หาเสียง เพราะเมื่อลงมือทำจริงๆ มีระบบที่ต้องติดตั้งและทำอีกนาน และระบบรวมไปถึงองค์ประกอบอื่นๆ ยังคงมีข้อผิดพลาด ซึ่งมันต้องรอ แต่เศรษฐกิจรอไม่ได้ ประชาชนรอไม่ไหว ดังนั้นเราต้องปรับเปลี่ยนให้ประชาชนก่อน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ ปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจในรูปแบบดิจิทัลด้วย

“ดิจิทัลวอลเลตเป็นพายุหมุนแน่นอน แต่รูปแบบจะเปลี่ยนไป ยืนยันว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้น้อยลง เพราะรัฐบาลไม่ได้มีนโยบายเดียวในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เราแบ่งทีละเฟส ควบคู่ไปกับนโยบายอื่นๆ มันก็จะทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจอยู่ดี นโยบายนี้ล่าช้าเพราะว่า เราคิดว่าเข้ามาแล้ว ระบบจะสามารถเป็นไปตามกระบวนการและผ่านไปได้ แต่ปรากฏว่าต้องมีการรับฟังความเห็น หลังแถลงนโยบาย ขอมุ่งความสนใจที่เรื่องน้ำท่วมก่อน” เมื่อถามต่อว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลแพทองธารไม่ต้องนับปี แต่นับเดือนดีกว่าว่าจะไปรอดไหม น.ส.แพทองธาร หันมาตอบว่า “ก็ช่วยกันนับ”

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่า สส.ปชน. จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.ตรวจการบ้าน 1 ปีที่ผ่านมาว่า สิ่งที่รัฐบาลของ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ สัญญาไว้ มีความคืบหน้าไปแค่ไหน แก้ไขปัญหาประชาชนได้แค่ไหน และ 2.เราคิดว่านโยบายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายก ฯ มีบางประเด็นที่ยังไม่ตอบโจทย์ และเราอาจเสนอแนะสิ่งที่ดีขึ้นได้เพื่อประชาชน ทั้งการประตุ้นเศรษฐกิจ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต , การแก้รัฐธรรมนูญ โดยจะเป็นการมองไปข้างหน้าในอีก 3 ปี

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ แจ้งความดำเนินคดีนพ.วรงค์ ฐานหมิ่นประมาท กรณีวิพากษ์วิจารณ์ ร.อ.ธรรมนัสทำตัวไม่เหมาะสม แทรกแซงข้าราชการและฝ่ายบริหาร ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมที่จังหวัดชัยนาท และ พระนครศรีอยุธยา หลังจากพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีแล้วว่า ยืนยันว่าการตีความในกฎหมาย การเป็นรัฐมนตรีรักษาการของร.อ.ธรรมนัส ได้สิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.2567 ซึ่งเป็นวันที่ ครม.ได้เข้าเฝ้าถวายสัตย์แล้ว ร.อ.ธรรมนัส ไม่มีอำนาจหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจดูน้ำท่วมในวันที่ 8 ก.ย.2567 กฎหมายให้ ครม.ชุดใหม่ทำหน้าที่ แม้ยังไม่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ก็สามารถลงพื้นที่ได้

“รัฐธรรมนูญ มาตรา 168 ระบุว่าเมื่อ ครม.ชุดใหม่เข้ารับหน้าที่ ให้ ครม.รักษาการหยุดปฏิบัติหน้าที่ เท่ากับว่าวันที่ 6 ก.ย.2567 ร.อ.ธรรมนัส ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็ต้องไปตีความคำว่า บริหารราชการแผ่นดิน คำนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา วันที่ 6-12 ก.ย.2567 ถ้ามีความจำเป็นเร่งด่วนเช่น น้ำท่วม รัฐธรรมนูญมาตรา 162 วรรคสองระบุเรื่องนี้ว่า ให้ ครม.ชุดใหม่ทำหน้าที่ไปก่อนได้ เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ผมไปออกรายการกับที่ปรึกษา ร.อ.ธรรมนัส เขายอมรับว่าไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับพี่หมอนะ แค่ไปลงบันทึกประจำวันเฉยๆ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ผมก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าดำเนินคดีฟ้องหมิ่นประมาทผม ผมฟ้องกลับนะ ” นพ.วรงค์ กล่าว

และสำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกรองประธานสภาคนที่ 2 และ 3 ก็ได้ผลตามที่เป็นข่าว คือ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ลาออกจากรองประธานสภาคนที่ 2 และได้รับการเสนอชื่อเป็นรองประธานสภาคนที่ 1 ขณะที่ “แบต ภราดร ปริศนานันทกุล” สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ได้รับการเสนอชื่อเป็นรองประธานสภาคนที่ 2 ซึ่งเมื่อไม่มีการเสนอชื่อแข่งก็ไม่ต้องโหวต

นายภราดร แสดงวิสัยทัศน์ว่า ขอให้คำมั่นสัญญาจะไม่เป็นรองประธานสภาของพรรคภูมิใจไทย หรือฝ่ายรัฐบาล แต่จะเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ของ สส. 493คน พร้อมปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายเต็มที่และทำให้ดีที่สุด ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขทำให้สภาเป็นของประชาชน

จากนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า จะรีบนำความกราบบังคมทูลโปรดเกล้าฯ ถือว่าเป็นบรรยากาศดีมาก ขอสั่งปิดประชุม เพื่อให้สส.เตรียมตัวอภิปรายนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 12-13 ก.ย.นี้ ก่อนสั่งปิดการประชุมในเลา 11.39น. ในการประชุม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เข้ามาร่วมประชุมสภาเป็นครั้งแรก ภายหลังเกิดปัญหาความขัดแย้งกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพรรคเพื่อไทย