เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 11 ก.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเด็กนักเรียนพลัดตกอาคารเรียนลงมาเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณหน้าอาคาร 6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานชุดสืบสวน แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศล สมุทรปราการ เดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าอาคาร 6 เป็นอาคารเรียน สูง 6 ชั้น ห่างจากอาคารเรียนประมาณ 6 เมตร เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นนักเรียนหญิง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ทราบชื่อ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี สภาพมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะเลือดไหลอาบหน้า จึงปิดกั้นที่เกิดเหตุ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ และประสานผู้ปกครองของนักเรียนหญิง ก่อนจะเดินทางมายังจุดเกิดเหตุ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด โดยจากการสอบถามทางผู้ปกครองนั้นไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่านักเรียนหญิงได้กระโดดมาจากชั้นที่ 4 ของตัวอาคารดังกล่าว สูงกว่า 15 เมตร กระแทกพื้นเสียชีวิตทันที โดยมีประวัติป่วยเป็นโรคซึมเศร้า รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งจากครูว่ามีนักเรียนโดดตึกที่อาคาร 6 จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้น และแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่นักเรียนที่กระโดดตึกนั้น ชื่อ น.ส.เอ เรียนอยู่ ม.4/4 สายวิทย์-คณิต เป็นเด็กเรียนดี โดยนักเรียนหญิงได้เรียนที่โรงเรียนแห่งนี้มาตั้งแต่ ม.1 แล้วต่อ ม.4 มีปัญหาในเรื่องของโรคซึมเศร้าและเครียด มีประวัติรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ตั้งแต่ชั้น ม.1 โดยมีภาวะเครียดได้กระโดดช่วงเวลา 12.18 น. ครูจึงโทรฯ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยผู้ปกครองมาที่เกิดเหตุก็ไม่ได้ติดใจสาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้ ที่ผ่านมาทางโรงเรียนมีระบบการดูแลในการที่นักเรียนป่วย มีการเยี่ยมบ้าน ประสานงานกับผู้ปกครองอยู่ตลอด

นายวัชรินทร์ โตขาว รอง ผอ.สพม.สมุทรปราการ กล่าวว่า ที่ผู้ปกครองรู้ว่าเด็กป่วย มีปัญหาก็จะคอยคุยด้วย เมื่อวานเด็กมีอาการซึม แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุขึ้น เพราะผู้ปกครองคอยช่วยเหลือให้คำแนะนำอยู่แล้ว ผู้ปกครองบอกว่าเด็กเป็นๆ หายๆ อยู่แล้ว จากการสอบถามครูประจำชั้น เด็กก็เรียนปกติ ถ้ามีปัญหาครูจะแจ้งมาอยู่แล้วเพราะเด็กคนนี้ทางโรงเรียนดูแลเฝ้าระวังอยู่แล้ว โดยช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงพักเที่ยง เบื้องต้นได้ประสานนักจิตวิทยาของจังหวัดมาที่โรงเรียนในวันพรุ่งนี้ เพื่อเยียวยาจิตใจของนักเรียนในโรงเรียนที่เจอเหตุการณ์นี้

จากการสอบถาม ผู้ปกครอง ทราบว่า มีลูก 3 คน น้องเป็นคนกลาง ช่วงโควิดเรียนออนไลน์ ทำให้เด็กทั้งสามคนอยู่บ้าน ซึ่งน้องผู้เสียชีวิตรับผิดชอบทำงานบ้าน เคยบ่นกับพ่อว่าทำไมผู้หญิงต้องทำงานบ้านแล้วทำไมผู้ชายไม่ทำ เนื่องจากพี่คนโตกับคนเล็กเป็นผู้ชายและไม่ช่วยทำงานบ้าน พ่อก็เลยแก้ปัญหาโดยการแบ่งงานให้เท่าเทียมกัน พร้อมดูแลให้ความอบอุ่นอย่างเท่าเทียมแล้วก็สอนตามวิถีที่พ่อแม่พอจะสอนได้ ยอมรับว่าครอบครัวไม่ได้มีเงินมากพอที่จะพาลูกไปเที่ยวเหมือนคนอื่น ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ลูกเกิดภาวะซึมเศร้า จนกระทั่งเข้าชั้นมัธยมต้น ตั้งแต่ปี 64 ก็รับทราบจากน้องว่าถูกเพื่อนบูลลี่ จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้น้องซึมเศร้ากว่าเดิม ทางครอบครัวเคยพาน้องไปหาหมอแล้ว ได้รับยาอยู่ในความดูแลมาโดยตลอด ไม่ได้ขาดยา จนกระทั่งเมื่อวานนี้ น้องมีอาการขณะทำการบ้านอยู่แล้วหยุดทำการบ้านไป พ่อก็เลยปลอบใจด้วยการซื้อขนมของหวานมาให้ ก็ดูเหมือนอาการดีขึ้นแล้วไม่มีอาการอะไรผิดปกติ ขณะที่เมื่อเช้านี้น้องก็มาโรงเรียนตามปกติ โดยพ่อจะโทรฯ หาน้องในช่วงพักกลางวัน แต่ปรากฏว่าวันนี้ตอนเที่ยง โทรฯ หาน้องแล้วแต่ปิดเครื่อง พ่อเข้าใจว่าน้องน่าจะมีเรื่องเครียดและไม่น่าจะมีเหตุร้ายแรงอะไร หลังจากนั้น ไม่ถึง 5 นาทีก็รับสายจากทางโรงเรียนแจ้งว่าน้องตกตึกเสียชีวิต.