เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 11 ก.ย. ที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานในการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และ จังหวัดเชียงราย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบประชุมทางไกล

โดยนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวรายงานกรณีเกิดเหตุดินถล่มที่แม่อาย ระหว่างลงพื้นที่ ว่า มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 3 ราย ขณะนี้จึงได้นำส่งโรงพยาบาลทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่สำหรับผู้สูญหาย 6 ราย ได้รับแจ้งว่าเสียชีวิตแล้วทั้งหมด โดย 1 ในนั้น เป็นผู้ใหญ่บ้านด้วย ส่วนสถานการณ์น้ำตอนนี้ พบว่ามวลน้ำที่ไหลลงมาที่แม่น้ำกก ค่อนข้างมีปริมาณมาก ซึ่งจะไหลลงไปที่จังหวัดเชียงราย ทางเชียงใหม่จึงยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ปัญหาที่เจอส่วนใหญ่พบว่า เป็นเรื่องของดินสไลด์ลงมาทับบ้านเรือนประชาชน

ด้านนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวรายงานว่า ขณะนี้อยู่กับ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.ท.ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ได้ลงพื้นที่มาติดตามสถานการณ์น้ำ และให้ความร่วมมือช่วยเหลือต่างๆ เพราะยังมีประชาชนติดค้างในบ้านเรือนจำนวนหนึ่ง แต่ข่าวดีที่ได้รับคือกระแสน้ำลดความรุนแรงลงแล้ว และจากการช่วยเหลือของกองทัพ คาดว่าหากฝนไม่ตกลงมาซ้ำภายใน 1-2 วันนี้ น้ำจะลดลง แต่สิ่งที่เราไม่มั่นใจคือยังมีฝนตกลงมาอยู่จึงกังวลว่าน้ำจากที่อื่นๆ อาทิ เมียนมา รวมถึงแม่น้ำกกจากเชียงราย จะไหลลงมาซ้ำ ทำให้ตอนนี้น้ำเริ่มเอ่อท่วมคอสะพาน และการเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งเมื่อสักครู่ ท่าอากาศยานเชียงราย แจ้งว่ารันเวย์ของสนามบินยังไม่ท่วม แต่ทางเข้าสนามบินต้องใช้รถสูง

ด้วยเหตุนี้ จึงอยากจะขอรับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 หรือ ฮ.ปภ.32 เพิ่มเติม ซึ่งทางจังหวัดได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยไปแล้ว จำนวน 1 ลำ ส่วนเรื่องของถุงยังชีพ และบุคลากรทางการแพทย์นั้น ยืนยันว่ายังเพียงพอรับมือกับสถานการณ์แล้ว ทางอธิบดี ปภ. จึงได้กล่าวเสริมว่า ได้สั่งการให้เฮลิคอปเตอร์ไปลงที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย แล้ว จำนวน 1 ลำ โดยจะดำเนินการทันที

จากนั้น นายอนุทิน ได้ย้ำต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้ต้องขยายความช่วยเหลือ และความเสียหายโดยเร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ดังนั้นหากงบประมาณไม่เพียงพอช่วยเหลือ ขอให้เบิกงบประมาณเพิ่มเติมเข้ามา นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้ดูแลรวมถึงเชิดชูเกียรติผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิต เนื่องจากถือเป็นบุคคลากรของกระทรวงมหาดไทย พร้อมแสดงความห่วงใยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยเตือนว่า สภาพอากาศแบบนี้ อย่าขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจสถานการณ์เด็ดขาด เพราะเป็นอันตรายต่อชีวิต

นอกจากนี้ ระหว่างการประชุม มีรายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แจ้งว่าจะลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ในจังหวัดที่ประสบอุทกภัยด้วย โดยคาดการณ์ว่าจะเป็นวันเสาร์ที่ 14 ก.ย. นี้