ดาวเคราะห์น้อย 99942 “อะโพฟิส” (Apophis) มีฉายาที่เรียกกันเล่น ๆ ว่า “เทพแห่งความโกลากล” รูปร่างของมันคล้ายถั่วลิสง และกว้างประมาณ 340 เมตร

ในวันที่ 13 เมษายน 2572 อะโพฟิส จะโคจรผ่านโลกโดยห่างจากพื้นผิวโลกประมาณ 20,000 ไมล์ (32,000 กิโลเมตร) ที่บริเวณเหนือมหาสมุทรแอตแลนติก โดยใช้เวลาไม่ถึง 1 ชม. เนื่องจากมันเคลื่อนตัวได้เร็วมาก

ตามการประเมินเบื้องต้นแล้ว ยืนยันได้ว่า อะโพฟิสจะไม่พุ่งชนโลก แต่ก็มีกรณีศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ ชี้ให้เห็นว่ามีเทหวัตถุอื่นซึ่งมีขนาดประมาณ 0.6 เมตร อาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ แม้ว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก 

พอล วีเกิร์ต และ เบนจามิน ไฮแอตต์ นักดาราศาสตร์ชาวแคนาดา และผู้ร่วมเขียนงานวิจัย ได้ศึกษาความเป็นไปได้ที่ดาวเคราะห์น้อยจะพุ่งชนกับวัตถุอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้ อะโพฟิส พุ่งเข้าหาโลกของเราได้ 

กรณีศึกษาที่ได้รับการเผยแพร่ใน The Planetary Science พบว่าวัตถุดังกล่าว อาจทำให้ดาวเคราะห์น้อยเบี่ยงเบนออกนอกเส้นทางได้ หากมันมีขนาดใหญ่ราว 3.4 เมตร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อมาคือ ทำให้อะโพฟิสพุ่งชนโลกได้

แต่โชคยังดีที่นักวิทยาศาสตร์คำนวณอัตราการเกิดเหตุการณ์อะโพฟิสพุ่งชนโลกได้ว่าอยู่ที่ 2.7% เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ทาง “คอสโมโนว์เลจ” สื่อดิจิทัลที่เผยแพร่ความรู้ด้านดาราศาสตร์และอวกาศ ได้สร้างภาพจำลองเหตุการณ์ขึ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง ถ้าหากอะโพฟิสพุ่งชนโลกจริง ๆ 

คลิปวิดีโอจำลองสถานการณ์ดังกล่าวเผยให้เห็นว่า เมื่ออะโพฟิสพุ่งชนพื้นผิวโลก พลังงานจลน์ (พลังงานที่เกิดขึ้นขณะที่วัตถุเคลื่อนที่) จะมีความหนักหน่วงรุนแรงเทียบเท่าระเบิดทีเอ็นที 1,000 เมกะตัน หรือระเบิดนิวเคลียร์หลายหมื่นลูก 

แม้ว่าแรงกระแทกนี้ จะไม่ถึงกับทำให้มนุษย์หายไปจากโลกทั้งหมด แต่ก็จะทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายพันล้านคน รวมถึงส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง

ในคลิปอธิบายว่า ถ้าหากมนุษย์ไม่สามารถหยุดยั้งอะโพฟิส หรือเปลี่ยนแปลงเส้นทางการโคจรของมัน ไม่ให้พุ่งมาชนโลกได้ ก็ต้องหาทางอพยพออกนอกพื้นที่ ซึ่งโครงการใหญ่ขนาดจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระดับโลก เพื่ออพยพผู้คนหลายล้านคนสู่อวกาศ 

แต่เมื่อพิจารณาจากขนาด ความหนาแน่น ความเร็ว และมุมที่ดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลกแล้ว ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะอพยพลี้ภัยในลักษณะดังกล่าว

องค์กรการบินและอวกาศแห่งสหรัฐหรือ “นาซา” ได้ร่วมพิจารณาความเป็นไปได้ที่อะโพฟิสจะพุ่งชนโลกเมื่อปีที่แล้ว และมีแถลงการณ์ว่า ความน่าสนใจของดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส คือการที่มันจะโคจรเข้ามาใกล้โลกมากเป็นพิเศษในวันที่ 13 เมษายน 2572 แม้ว่าอะโพฟิสจะไม่พุ่งชนโลกในครั้งนี้ หรือในอนาคตอันใกล้นี้ แต่การโคจรผ่านในปี 2572 นี้ อะโพฟิสจะอยู่ห่างจากพื้นผิวโลกไปเพียง 20,000 ไมล์ (32,000 กิโลเมตร) ซึ่งใกล้กว่าดาวเทียมบางดวงเสียอีก และเป็นระยะที่ใกล้พอที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าในซีกโลกตะวันออก

ด้านทีมนักวิทยาศาสตร์ประมาณการว่า เหตุการณ์ที่ดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดพอ ๆ กับอะโพฟิส ซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 340 เมตร จะโคจรผ่านโลกในระยะที่ใกล้มากขนาดนี้ เกิดขึ้นได้ทุก ๆ 7,500 ปี

ที่มา : ladbible.com

เครดิตภาพ : YouTube / Cosmoknowledge