เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากเขื่อนเจ้าพระยา มีการปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อยู่ที่ 1,449 ลบ.ม./วินาที ขณะนี้ส่งผลให้หลายอำเภอใน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวน 7 อำเภอ 82 ตำบล 407 หมู่บ้าน 12,393 ครัวเรือน ได้แก่ อ.เสนา อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.บาง อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน อ.บางปะหัน สถานการณ์น้ำเริ่มลดลง วันนี้ปริมาณน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมลดลง 5-10 เซนติเมตร แต่ยังคงถูกน้ำท่วมอยู่ในบ้านเรือนประชาชนริมน้ำ

โดยพื้นที่โรงเรียนวัดตะกู (เมตตาชนูปการ) หมู่ที่ 4 ต.วัดตะกู อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ติดกับคลองบางหลวง ล้นตลิ่งเข้าท่วมโรงเรียนมากว่า 1 สัปดาห์ ทำให้โรงเรียนต้องหยุดการเรียนการสอน นักเรียนระดับชั้น อนุบาล-ป.6 จำนวน 38 คน พบว่า ระดับน้ำเริ่มลดระดับลง แต่ยังคงท่วมด้านหน้าโรงเรียนตัวอาคารบางส่วน ครู เจ้าหน้าที่ของทางโรงเรียน ได้เข้ามาทำเร่งฉีดน้ำทำความสะอาด เนื่องจากมีโคลนจำนวนมากที่มากับน้ำไหลมารวมกันที่พื้น ต้องเร่งขัด เร่งถูออกในช่วงน้ำลดลงใหม่ๆ เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาด และไม่ให้ได้รับความเสียหายมาก ส่วนข้าวของเครื่องใช้ โต๊ะ เก้าอี้อุปกรณ์การเรียนการสอน ยังคงหนุนยกสูงเอาไว้บนนั่งร้านกว่า 2 เมตร

สอบถาม นายภานุพงศ์ ชินประหัษฐ์ อายุ 28 ปี เจ้าหน้าหน้าที่ศูนย์ดิจิทัลชุมชน โรงเรียนวัดตะกู เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำเริ่มลดลงมาเป็นวันที่ 3 น้ำค่อยๆ ลงจากเมื่อวานลงเยอะ ตอนแรกยังไม่ได้ทำอะไร แต่มาวันนี้น้ำลงเยอะ พื้นเริ่มแห้ง จะมีดินโคลนที่มากับน้ำจำนวนมาก เกาะกับพื้นกระเบื้องโรงเรียน ต้องเร่งทำความสะอาด ช่วงที่น้ำกำลังลด ทำความสะอาดง่าย ยังคงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เพราะทางภาคเหนือยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง เกรงว่าน้ำจะกลับมาท่วมอีก เพราะเคยมีน้ำท่วมขึ้นลงแบบนี้มาแล้ว ถ้าวันจันทร์น้ำลดลง เขื่อนเจ้าพระยาไม่ปรับการระบายน้ำเพิ่ม โรงเรียนน่าจะเปิดเรียนตามปกติได้.