เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่กระทรวงแรงงาน พนักงานห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง จำนวนหนึ่ง เข้ายื่นหนังสือถึงนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เพื่อขอให้ช่วยเหลือติดตามนายจ้างที่ปิดกิจการห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง สาขาธนบุรี โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ให้มีการชดเชยเยียวยาตามกฎหมาย โดยมีนายมนัส โกศล คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้รับหนังสือ จากนั้นได้มีการเปิดห้องประชุมหารือร่วมกันระหว่าง ร.ต.สมศักดิ์ พรหมดำ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.)  น.ส.วัชรี เสมคำ ผู้อำนวยการสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรุงเทพมหานาคร เขตพื้นที่ 6 ผู้แทนสำนักงานประกันสังคม (สปส.) และตัวแทนพนักงานตั้งฮั่วเส็ง โดยสรุปพนักงานพึงพอใจในการหารือ จึงเดินทางกลับ

นายมนัส กล่าวว่า วันนี้ลูกจ้างของตั้งฮั่วเส็ง เข้ามายื่นขอความช่วยเหลือ เนื่องจากถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม  ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า และมีการค้างจ่ายค่าจ้างนานเป็นปี จึงมาขอให้กระทรวงแรงงานช่วยเหลือ 5 ข้อ ดังนี้ 1. ขอให้กระทรวงแรงงานเร่งรัดบริษัทสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็งจำกัดให้จ่ายเงินเดือนค้างจ่ายระหว่าง 6 เดือนถึง 15 เดือนของพนักงานทั้งหมดโดยเร็ว 2. ขอให้กระทรวงแรงงานเร่งรัดบริษัทสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็งจำกัดให้จ่ายค่าชดเชยจากการเลิกจ้างของพนักงานทั้งหมดโดยเร็ว 3. ขอให้กระทรวงแรงงานเร่งรัดบริษัทสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็งจำกัด จ่ายค่าไม่บอกเลิกจ้างล่วงหน้า 1 เดือนของพนักงานทั้งหมดโดยเร็ว 4. ขอให้กระทรวงแรงงาน กสร. เร่งรัดการอนุมัติการจ่ายกองทุนชดเชยเลิกจ้างของพนักงานบริษัทสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็งจำกัดอย่างเร่งด่วน และ 5. ขอให้กระทรวงแรงงาน กสร. เร่งรัดการอนุมัติการจ่ายกองทุนเงินสงเคราะห์จากเงินเดือนค้างจ่ายของพนักงานบริษัทสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็งจำกัดอย่างเร่งด่วน

นายมนัส กล่าวต่อว่า  สำหรับข้อสรุปวันนี้ คือการปิดกิจการ ถือเป็นการเลิกจ้าง ในส่วนนี้ได้ให้ผู้ประกันตนซึ่งมีราวๆ ร้อยคนนิดๆ ให้ขึ้นทะเบียนว่างงาน เพื่อได้รับเงินชดเชยการว่างงาน 50% ของค่าจ้าง ซึ่งทางสำนักงานประกันสังคมได้มาตั้งโต๊ะรับลงทะเบียนที่กระทรวงแรงงาน และที่ห้างตั้งฮั่วเส็งแบบเร่งด่วนด้วย ส่วนเรื่องการคุ้มครองตามกองทุนเงินสงเคราะห์นั้น ได้ให้เจ้าหน้าที่นำเข้าสู่การพิจารณาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ส่วนคดีแพ่ง คดีอาญานั้น ทางสำนักงานสวัสดิการฯ พื้นที่ 6 ก็ดำเนินการตามกฎหมายไป อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่มีคดีความนั้น ทาง กสร. จะเชิญ 2 ฝ่ายมาไกล่เกลี่ย เรื่องเงินค้างจ่าย ซึ่งอาจจะจบได้ หรือไม่ได้ ก็ต้องคุยกันก่อน เบื้องต้นเมื่อวันที่ 10 ก.ย. ทางสำนักงานสวัสดิการฯ พื้นที่ 6 คุยกับผู้ถือหุ้น ก็บอกว่ายังไม่มีเงิน รอการขายกิจการเพื่อหวังว่าจะมีเงินมาจ่ายให้กับลูกจ้างต่อไป ดังนั้นต้องนำ 2 ฝ่ายมาไกล่เกลี่ยกันก่อน จริงๆ ลูกจ้างก็ถือว่าน่าเห็นใจ ส่วนนายจ้างก็ไม่ดื้อ อาจจะมีการหาเงินจากทางอื่นมาจ่ายได้ ซึ่งเรื่องนี้ ตนจะติดตามอย่างต่อเนื่อง.