จากกรณีที่นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กรณีถูกตำรวจยศ ส.ต.ต. สิบเวร สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เรียกเงิน 1 หมื่นบาท และบังคับให้มีเพศสัมพันธ์แลกกับการไม่ดำเนินคดีเมาขับ

โดยข่มขู่ถ้าไม่ยอมทำตามจะต้องติดคุก และเสียค่าปรับ 2 หมื่นบาท เมื่อยินยอมทำตาม แต่ตำรวจนายดังกล่าวยังไม่ยอมจบ ติดต่อมาแบล็กเมล์เพื่อจะให้ไปนอนด้วยอีก จึงทนไม่ไหวเข้าขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ต่อมานางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พาผู้เสียหายเข้าพบ พ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ธัญบุรี เพื่อเข้าให้ข้อความและแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าว

ล่าสุด พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ได้แสดงความเสียใจกับเรื่องดังกล่าว พร้อมกล่าวว่า ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้มีคำสั่งให้ ส.ต.ต. ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี (ศปก.ภ.จว.ปทุมธานี) แล้ว เพื่อมิให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน โดยมีผลวันที่ 10 ก.ย. 67 

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 ก.ย. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นางสาวเอ (นามสมมุติ) นศ.ผู้เสียหาย พร้อมด้วยนายบี (นามสมมุติ) คู่กรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนที่นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี จะพาผู้เสียหาย ไปพบ พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี และ พ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ธัญบุรี ที่สภ.ธัญบุรี เพื่อติดตามคดี ขณะเดียวกันคู่กรณีที่ขับรถเฉี่ยวชนกับ นศ.สาว จะเดินทางมาที่ สภ.ธัญบุรี ด้วย เพื่อลงบันทึกประจำวัน หลังตกลงค่าเสียหายเยียวยากันได้ด้วยดี

นศ.สาวปี 4 ร้องถูก ตร. รีดเงินซ้ำบังคับมีเซ็กซ์ แลกไม่ดำเนินคดีเมาขับ

นายบี คู่กรณี เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุตนเองพยายามขอหลักฐานการเป่าแอลกอฮอล์ของน้องเขา โดยตำรวจ ส.ต.ต.นายนั้นก็บอกว่าค่อยมารับวันหลังก็ได้ หลังนั้นตนเองเลยไปดูที่ซากรถยนต์และกลับบ้านไป โดยตำรวจบอกว่าเดี๋ยวจะนัดมาใหม่ กระทั่งวันที่ 1 กันยายน 2567 เวลา 19.00 น. บอกว่าตำรวจบอกว่าน้องผู้เสียหายที่เป็นคู่กรณี จะเข้าไปยอมรับผิดเพื่อให้ประกันมาเคลม แต่ตำรวจบอกว่าไม่ต้องเข้ามาก็ได้ในวันนั้น โดยให้เข้ามาในวันที่ 2 กันยายน 2567 เวลา 08.30 น. พอเข้าไปแล้วตนเองก็ขอใบตรวจวัดค่าแอลกอฮอล์ ตำรวจบอกว่าน้องเป่าแล้วขึ้นเพียง 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่เกินตามข้อกฎหมาย แล้วยังบอกว่า แบบนี้ก็จบแล้วเพราะประกันน้องเขาเป็นประกันชั้น 1 อย่างไรก็รับผิดชอบอยู่แล้ว หลังนั้นตนเองก็ไปยกรถ โดยวันนั้นการยกรถตนเองเป็นคนจ่าย ซึ่งอยู่ระหว่างทำเรื่องย้อนหลังจากยกรถ จากประกันของน้องคู่กรณี

นศ.ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองพยายามจะขอพบกับคู่กรณีเพื่อเคลียร์เรื่องให้จบเพื่อไม่ให้ยืดเยื้อ แต่ตำรวจไม่ยอมให้เจอกัน เรื่องยังไม่จบ เอกสารต้องมีให้เซ็นอีก ต้องเจอหนูก่อนคู่กรณีหลังสุดเลย ไม่ยอมให้ตนเองเคลียร์ บอกว่าคู่กรณีไม่โอเค และยังติดใจกับตนเอง แต่ทราบภายหลังว่าคู่กรณีอยากเจอกับตนเอง โดยตำรวจมีทางเลือกให้ตนเองเพียง 2 ตัวเลือก คือ หนึ่งหมื่นบาทไม่ต้องติดคุก หากเสียสองหมื่นบาทเป็นการประกันตัวต้องติดคุก

ส.ต.ต. ผู้บังคับหมู่งานสอบสวน สภ.ธัญบุรี กล่าวเปิดเผยว่า เงินดังกล่าวนั้น เขาให้เงินผมเอง เพราะมันจะมีเงินค่ารถยก 2,500 บาท วันนั้นผมบอกว่าจะเอาแค่นั้น แล้วก็ค่าปรับ เพราะว่าคู่กรณียังติดใจอยู่ แล้วน้องเขาก็เอาเงินให้ผม 10,000 บาท แล้วบอกผมว่าเอาไปเถอะพี่ หนูจะได้โล่ง ผมก็ทำตัวไม่ถูก เพราะอีกฝ่ายหนึ่งก็เป็นคู่กรณี เพราะยังไงก็ต้องไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่าย ส่วนเรื่องที่ไปกินที่ร้านอาหารนั้น เราก็ไปกินเหมือนคนคุยกันปกติ พอไปคอนโดฯ ก็นอนด้วยกันเหมือนตัวโดนตัว ก็เลยตามนั้นครับ