สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ว่าการอนุมัติใบอนุญาตส่งออกอาวุธทั้งหมดเกิดขึ้น ก่อนรัฐบาลแคนาดาสั่งห้ามการขายอาวุธเพิ่มเติมให้แก่อิสราเอล ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากมองว่า วิกฤติด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซามีความเลวร้ายยิ่งขึ้น

นางเมลานี โจลี รมว.การต่างประเทศแคนาดา เปิดเผยว่า เธอได้สั่งให้มีการทบทวนสัญญาทั้งหมด ระหว่างซัพพลายเออร์อาวุธของแคนาดากับอิสราเอลและประเทศอื่น ๆ และได้ระงับใบอนุญาตปัจจุบันประมาณ 30 ฉบับ ของบริษัทในแคนาดา รวมถึงบริษัทซึ่งเป็นสาขาของผู้ประกอบการจากสหรัฐด้วย

แคนาดาเป็นหนึ่งในประเทศพันธมิตรสำคัญของสหรัฐ ซึ่งให้ความช่วยเหลือทางการทหารแก่อิสราเอลเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ราว 33,618 ล้านบาท) การประกาศหยุดส่งอาวุธใหม่ให้แก่อิสราเอล จึงสร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับอิสราเอลด้วย

“นโยบายของเราชัดเจน เราจะไม่ส่งอาวุธหรือชิ้นส่วนใด ๆ ไปยังกาซาเด็ดขาด” โจลีย้ำ โดยอ้างถึงกระสุนปืนที่ผลิตโดยบริษัทเจเนอรัล ไดนามิกส์ ของสหรัฐ ซึ่งมีสำนักงานในแคนาดา พร้อมทั้งเผยว่า ตอนนี้รัฐบาลกำลังหารือถึงปัญหาดังกล่าวกับเจเนอรัล ไดนามิกส์

ในอดีต อิสราเอลเคยเป็นผู้นำเข้าอาวุธรายใหญ่ที่สุดจากแคนาดา เมื่อปี 2565 แคนาดาส่งออกอาวุธไปยังอิสราเอลมูลค่า 21 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 519 ล้านบาท) และก่อนหน้านั้นในปี 2564 มูลค่า 26 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 642 ล้านบาท) ส่งผลให้อิสราเอลอยู่ใน 10 อันดับแรก ของประเทศผู้นำเข้าอาวุธจากแคนาดามากที่สุด

ย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหราชอาณาจักรประกาศระงับการส่งออกอาวุธบางส่วนไปยังอิสราเอลเช่นกัน โดยอ้างถึงความเสี่ยงที่ชัดเจนว่า อาวุธเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้ ในการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES