และเพื่อระลึกถึงการจากไปของคุณดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทยในยุคนั้น ที่ท่านเป็นผู้นำในการรณรงค์ต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน ส่งเสริมธรรมาภิบาล สอดคล้องกับ SDG16 ปีนี้มีการตั้งวงเสวนากันหลายเวทีที่มีหัวข้อ “ESG ที่ G หายไป” ผมลองรวบรวมเสียงจากคนเล็กคนน้อย ว่าเขารู้สึกอย่างไร ปีนี้คอร์รัปชันเพิ่มขึ้น หรือลดลง

เพื่อน ๆ นักข่าว บอกว่า ปีนี้ทำข่าวการทุจริตประพฤติมิชอบมากขึ้น ล้วนแต่เป็นคดีใหญ่ ๆ ทั้งใหม่ และเก่าที่ถูกปลุกขึ้นมาใหม่ มีทุกวงการ ตั้งแต่วงการสีกากีที่เน่าเละ แต่ก็ยังไม่มีบทลงโทษหนัก ๆ วงการข้าราชการมีข่าวจับซองใต้โต๊ะได้คาหนังคาเขาหลายราย แต่เรื่องก็เงียบหาย วงการดาราคนดังก็มีเรื่องคดโกงอื้อฉาวอยู่รายวัน สักพักรอเรื่องเงียบ ก็ลืมกันไป

นิสิต นักศึกษา คนรุ่นใหม่บอกว่า เค้าเกลียดการคดโกงที่สุด ถ้าใครโกงข้อสอบมหาวิทยาลัยเขาจะโกรธมาก ถ้าใคร
เอาถุงขนมมาติดสินบนคุณครูประจำชั้น เขาจะฟ้องครูใหญ่ ถ้าใครวิ่งเต้นจ่ายตังค์เพื่อเป็นหัวหน้าชั้น เขาจะต่อต้าน แล้วเพื่อน
ที่แกล้งป่วยไม่ยอมเรียน แอบไปนอนห้องพยาบาลที่กล้องวงจรปิดเสียพอดี เขาก็รับไม่ได้ นอกจากโตไปไม่โกงแล้ว โตไป
เขาจะเป็นนักร้องด้วย

ผู้ใหญ่ข้าราชการที่เกษียณแล้วบอกว่า พวกเขาผ่านโลกมามาก เรื่องทุจริต วิ่งเต้น ติดสินบน เขาเห็นมาตั้งแต่รับราชการ บางคนบอกว่าเคยทำเป็นปกติของวัฒนธรรมองค์กร บางคนบอกว่าเห็นบ่อยแต่ไม่กล้าพูด ใครมีเงิน มีเส้นสายก็เติบโตรวดเร็ว ใครไม่ตามนํ้าก็ไม่ก้าวหน้า ถ้าร้องเรียนก็จะถูกย้าย เขาว่าเมื่อก่อนมีมากแล้ว เดี๋ยวนี้ยิ่งมากขึ้นทวีคูณ มีตั้งแต่ระดับนโยบาย ถึงปฏิบัติทุกขั้นตอน เขาอ้างว่ามาจากระบบการเมืองที่มีอิทธิพลในกระทรวงนั้น ๆ เขาบอกว่าสมัยก่อนก็ทำกันแบบเงียบ ๆ ทำตามคำสั่งนายตามนํ้าไปก็รอด แต่ยุคนี้เสี่ยงติดคุกได้ง่าย ๆ โดยผู้สั่งลอยตัว

เพื่อน ๆ นักการเมืองบอกว่า ยุคนี้ดีขึ้นมาก มีศาลช่วยตัดสินว่าใครดี ใครเลว แบบไหนเรียกว่ามีจริยธรรม แบบไหนเรียกว่าไร้จริยธรรมอย่างร้ายแรง ตอนนี้เพื่อน ๆ รีบถอนตัวจากการเป็น รมต. กันวุ่น เกรงว่าจะมีนักร้องไปหาเรื่องรายวัน แต่ถอนแล้วก็ส่งพ่อแม่พี่น้องเข้าไปแทน เป็นการแปลงร่าง สนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนในครอบครัว

สำหรับวิญญูชนคนตัวเล็ก ๆ อย่างพวกเรา ก็ได้แต่ไปแสดงพลังยืนชูกำปั้นไขว้กัน PR เป็นพิธีกรรมไป แล้วตั้งวงคุยเรื่อง “ESG ที่ G หายไป … ความโกง ที่โปร่งใส” ดูคะแนน Corruption Index ของเราปีที่ผ่านมาลดลง 1 คะแนน ได้ 35 จาก 100 และอันดับโลกร่วงลงมา 7 อันดับ จาก 101 เป็น 108 จาก 180 ประเทศ ซึ่งปีนี้อาจจะลงไปอีก.