สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ว่า นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐและตัวแทนพรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตผู้นำสหรัฐในฐานะตัวแทนพรรครีพับลิกัน ขึ้นเวทีประชันวิสัยทัศน์ ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย ในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสวิงสเตตของการเลือกตั้ง และถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์เอบีซีนิวส์ เมื่อคืนวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น


การดีเบตครั้งนี้ซึ่งกินเวลานาน 1 ชั่วโมง กับอีก 45 นาที เป็นการเผชิญหน้าครั้งแรกอย่างเป็นทางการ และเป็นครั้งเดียวของทั้งสองคน โดยประเด็นส่วนใหญ่ของการโต้วาที เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของสหรัฐ การทำแท้ง มาตรการควบคุมพรมแดน และนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ


ทั้งนี้ แฮร์ริสกล่าวว่า ตลอด 4 ปีของอเมริกาในยุคที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี “เป็นช่วงเวลาน่าหัวเราะเยาะ” สำหรับผู้นำโลก แม้แต่ผู้บัญชาการทหารในสหรัฐยังเรียกทรัมป์ว่า “คือความอับอายขายหน้า” และกล่าวว่าอีกฝ่าย “ผิดพลาด” และ “อ่อนแอ” จนถูกชาวอเมริกัน 81 ล้านคน “ไล่ออก” หมายถึงคะแนนเสียงที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้รับ จากการขนะทรัมป์ในการเลือกตั้ง เมื่อปี 2563 และเน้นย้ำว่า “สหรัฐต้องไม่ถอยหลังอีก”

นางกมลา แฮร์ริส และนายโดนัลด์ ทรัมป์ บนเวทีประชันวิสัยทัศน์ ถ่ายทอดสดทางเอบีซีนิวส์


ในเรื่องการทำแท้ง แฮร์ริสกล่าวว่า การออกกฎหมายห้ามอย่างเด็ดขาด เป็นการลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของผู้หญิงในการตัดสินใจ โดยอ้างถึง “สิทธิและเสรีภาพในการเจริญพันธุ์” ขณะที่ทรัมป์กล่าวว่า เห็นด้วยกับการทำแท้ง “เฉพาะในกรณีของการข่มขืน” และการทำแท้งควรยกให้เป็นการตัดสินใจของแต่ะรัฐ สอดคล้องกับคำพิพากษาครั้งประวัติศาสตร์ของศาลฎีกาสหรัฐ


ในด้านนโยบายต่างประเทศ ทรัมป์กล่าวว่า เขาต้องการยุติสงครามในยูเครน และกล่าวว่า หากแฮร์ริสชนะการเลือกตั้ง “อิสราเอลจะหายไปจากแผนที่โลกภายในอีกสองปีข้างหน้า” และวิจารณ์รัฐบาลไบเดน “ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง” ในการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน เมื่อปี 2564 ส่วนแฮร์ริสกล่าวถึงเรื่องอิสราเอล ว่าสนับสนุน “สิทธิ” ของอีกฝ่าย ในการป้องกันตนเอง


เกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจ ทรัมป์ยืนยันว่า แผนการที่นำเสนอ “ได้ผล” และ “มีประสิทธิภาพ” แต่แฮร์ริสโต้แย้งว่า นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลอย่างน้อย 16 คน วิจารณ์ไปในทางเดียวกันว่า นโยบายของทรัมป์จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอย

ในช่วงปิดการดีเบต แฮร์ริสยืนยันว่า เธอพร้อมเป็นประธานาธิบดีของทุกคน และให้ความสำคัญกับอนาคต ส่วนทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐ “มีแต่จะถอยหลัง” หากแฮร์ริสเป็นประธานาธิบดี และกล่าวว่า เพราะเหตุใดอีกฝ่ายจึงไม่ทำในสิ่งที่พูดตอนนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : AFP