คริส แคปเปอร์ ชายหนุ่มวัย 33 ปีจากออสเตรเลีย เกือบไม่รอดชีวิต หลังจากที่เขาแค่จิบน้ำระหว่างไปเยี่ยมเพื่อนในเมืองเมาท์เอลเลียต ทางตอนเหนือของควีนส์แลนด์ เมื่อปี 2564

น้ำที่ไม่ได้ผ่านการบำบัดหรือกลั่นกรองแค่อึกเล็ก ๆ นั้นทำให้เขาติดเชื้อแบคทีเรียในปอดที่เรียกว่าโรค NTM (Non-tuberculous mycobacteria) หรือวัณโรคเทียม เชื้อมัยโคแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคนี้ พบได้ทั่วไปในดิน น้ำหรือแม้กระทั่งฝุ่นละออง

ภายในเวลาเพียง 6 สัปดาห์ เชื้อโรคตัวนี้ก็ “กิน” ปอดของเขาไปถึง 1 ใน 3 ส่วน นอกจากนี้ยังทำให้เกิดภาวะไตวายและไขข้ออักเสบ

สภาพปอดของแคปเปอร์ที่เสียหายเพราะติดเชื้อแบคทีเรีย

ทุกวันนี้ แคปเปอร์มีชีวิตอยู่ได้โดยอาศัยการกินยาวันละ 16 เม็ด เขาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวจากเดลีเมล์ ออสเตรเลียว่า เขารู้สึกเหมือนทีมแพทย์กำลังรอให้เขาถึงวันตายเพราะพวกเขาแทบไม่มีข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับอาการป่วยของแคปเปอร์เลย

เขายังบอกด้วยว่าทีมแพทย์ที่รักษาเขาเปรียบเทียบอาการป่วยของเขาว่าเป็น “วัณโรคยุคใหม่”

ด้าน จิลเลียน คัลเบิร์ตสัน นักโภชนาการผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าการดื่ม “น้ำดิบ” หรือน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติที่ไม่ผ่านการบำบัดหรือกลั่นกรองใด ๆ เป็น “ความเสี่ยงครั้งใหญ่” เพราะในน้ำดิบเหล่านี้เต็มไปด้วยเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรค ซึ่งอาจทำให้ร่างกายป่วยหนักได้เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับแคปเปอร์

คัลเบิร์ตสันอธิบายว่าน้ำจากแหล่งธรรมชาติเหล่านี้ส่วนใหญ่จะไหลผ่านชั้นหินและสัมผัสกับพื้นที่หรือสารอินทรีย์ที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์แบคทีเรีย ถ้าหากน้ำเหล่านี้ไม่ได้ผ่านการกรองหรือกำจัดสารปนเปื้อน เมื่อดื่มเข้าไปก็อาจทำให้ป่วยได้

นักโภชนาการผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ถ้าหากอยากดื่มน้ำแร่ก็ควรซื้อน้ำแร่บรรจุขวดที่มีจำหน่ายทั่วไป เพราะเป็นน้ำที่ผ่านกระบวนการกลั่นกรองเชื้อโรคออกไปแล้ว จึงปลอดภัยกว่ามาก ขณะที่น้ำประปานั้นยังมีความเสี่ยงที่จะเจอเชื้อแบคทีเรียอยู่บ้าง แต่ก็น้อยมาก

ที่มา : ladbible.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES,  gofundme.com