เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ อาคารศูนย์การเรียนรู้ประวัติศาสตร์เกาะสีชัง อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี พล.อ.อ.สถิตพงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว/ประธานกรรมการและผู้อำนวยการทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาเกาะสีชังตามพระราโชบายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นายชูโชค ศิวะคุณากร Head of ESG&BSE SCG นางกนกพร รอดรุ่งเรือง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. คุณวิภาดา ดวงรัตน์ รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทบิ๊กซี โดยมี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายชูศักดิ์ นันทิธัญญธาดา นายอำเภอเกาะสีชัง นายสรศักดิ์ เภรตรา นายกเทศมนตรีตำบลเกาะสีชัง หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับและร่วมลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าฯ

ด้วยปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่เกาะสีชัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้ พลอากาศเอก สถิตพงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ฯ บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วนลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เกาะสีชัง โดยในวันนี้ได้นำคณะลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการตามพระบรมราโชบายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อาทิ การแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค น้ำเสีย ไฟฟ้า ขยะ และการท่องเที่ยว ซึ่งติดตามการดำเนินโครงการ 3 จุดสำคัญ ประกอบด้วย ระบบบำบัดน้ำให้ดีขึ้นของ SCG ณ ศูนย์กำจัดขยะเทศบาลตำบลเกาะสีชัง ระบบสำรองและจ่ายน้ำประปา ณ อ่างเก็บน้ำเทศบาลตำบลเกาะสีชัง และโรงสูบน้ำแรงต่ำพร้อมระบบส่งน้ำประปา ณ สะพานท่าเทียบเรือท่าภาณุรังสี (ท่าบน) ซึ่งการดำเนินโครงการสำคัญดังกล่าวในระยะแรกสามารถช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เกาะสีชังได้จำนวน 1,170 ครัวเรือน ประชาชน 2,022 คน ส่วนในระยะที่ 2 อยู่ระหว่างดำเนินการเป็นการวางท่อระบบบจ่ายน้ำประปาและติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และการติดตั้งถังเก็บน้ำ 2 แสนลิตรต่อถัง จำนวน 10 ถัง ซึ่งสามารถช่วยเหลือประชาชนได้อีก 980 ครัวเรือน ประชาชน 2,100 คน การดำเนินงานในภาพรวมสามารถลดค่าใช้จ่ายน้ำประปา จากเดิม 280 – 500 บาทต่อหน่วย (โดยเฉพาะช่วงฤดูแล้ง) เหลือเพียง 80 บาทต่อหน่วย ส่วนระยะยาว การประปาส่วนภูมิภาค จะขยายขอบเขตประปามายังเกาะสีชัง และพิจารณารับถ่ายโอนภารกิจของเทศบาลตำบลเกาะสีชัง เพื่อลดค่าใช้จ่ายน้ำลงเหลือหน่วยละไม่เกิน 30 บาท

ในส่วนระบบไฟฟ้า อยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนาระบบไฟฟ้าโดยการติดตั้งโซล่าฟาร์มซึ่งเป็นระบบไมโครกริด ขนาด 6 เมกะวัตต์ พร้อมติดตั้ง Storage 2 เมกะวัตต์ โดยเช่าพื้นที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ในการดำเนินการ ในส่วนของระบบเทคโนโลยีเคเบิ้ลที่ชำรุด ได้ทำการวางสายใหม่ลึก 7 เมตร จากเดิม 1.5 เมตร โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการผลิตสายซึ่งจะแล้วเสร็จตามแผนงานและสามารถจ่ายไฟฟ้าได้ในเดือนเมษายน 2568

ระบบบำบัดน้ำเสีย ได้มอบถังดักไขมันครัวเรือนต้นแบบ 50 ครัวเรือน โดยไขมันจะถูกลงไปกำจัดที่ถังน้ำเสียของ SCG และจะดำเนินการก่อสร้างศูนย์พัฒนาคุณภาพน้ำในพื้นที่ 1 ไร่ โดยจะรวบรวมน้ำเสียทั้งหมดที่เกิดขึ้นไปบำบัด และนำน้ำที่ผ่านการบำบัดมาใช้ประโยชน์ในกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ นำไปรดน้ำต้นไม้ และสิ่งสกปรกในพื้นที่

การจัดการขยะ การดำเนินงานที่ผ่านมา เทศบาลตำบลเกาะสีชัง ได้นำขยะไปกำจัดโดยวิธีการเผาที่เกาะขามใหญ่ ซึ่งมีเตาเผาขยะจำนวน 2 เตา ซึ่งไม่เพียงพอและทันต่อการกำจัดขยะที่เกิดขึ้นในทุกวัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขอรับการสนับสนุนงบประมาณภายในปี 2568 ในการจัดสร้างเตาเผาขยะเพิ่ม เพื่อเพิ่มศักยภาพการกำจัดขยะได้ประมาณ 10-15 ตันต่อวัน รวมทั้ง จังหวัดชลบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันในการบริหารจัดการขยะบนเกาะสีชัง โดยช่วยกันทำให้ทุกครัวเรือนเข้าสู่ระบบการเป็น “มนุษย์สีเขียว” ให้เต็มร้อย ตั้งแต่การเป็นมนุษย์ 3Rs คือ Reuse Reduce Recycle เพื่อลดจำนวนขยะ โดยอาศัยกลไกธนาคารขยะ นำขยะรีไซเคิลไปสร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมทั้ง ส่งเสริมบทบาทอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก (อถล.) เพื่อทำให้คนเกาะสีชังเป็น 3Rs Ambassador ลด ละ เลิก ถุงพลาสติก การลดใช้สิ่งที่เป็นผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง