สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ว่าศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป (อีซีเจ) มีคำพิพากษา ให้บริษัทแอปเปิลของสหรัฐต้องชำระภาษีคงค้าง เป็นเงินทั้งสิ้น 13,000 ล้านยูโร (ราว 484,536 ล้านบาท) ให้แก่ไอร์แลนด์


คำพิพากษาดังกล่าวของอีซีเจระบุว่า เป็นไปตามมติของคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) เมื่อปี 2559 ว่าไอร์แลนด์ “มอบความสนับสนุนที่อยู่นอกเหนือกฎหมาย” ให้แก่แอปเปิล และเป็นภาระผูกพันซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไอร์แลนด์ต้องติดตามเรียกเก็บคืนให้ได้ ครอบคลุมระยะเวลาระหว่างปี 2534-2557


มติของศาลและการดำเนินงานของอีซีเกิดขึ้น ท่ามกลางความพยายามที่ต่อเนื่องยาวนานของหน่วยงานทั้งสองแห่ง ในการจัดการกับบริษัทข้ามชาติหลายแห่ง ที่เข้ามาตั้งสำนักงานในยุโรป แล้วอาศัย “ช่องโหว่” ของข้อตกลง เพื่อหลีกเลี่ยงการชำระภาษี หรือจ่ายภาษีให้ได้น้อยที่สุด


ด้านแอปเปิลออกแถลงการณ์เกี่ยวกับคำพิพากษาของอีซีเจ ว่าคดีนี้ “ไม่ได้เกี่ยวกับมูลค่าภาษีที่บริษัทต้องชำระ” แต่เป็นเรื่องของ “การต้องจ่ายภาษีให้แก่หน่วยงานแห่งใดกันแน่” พร้อมทั้งยืนยันว่า แอปเปิลจ่ายภาษีให้แก่หน่วยงานของทุกประเทศ ที่บริษัทเข้าไปตั้งสำนักงาน และไม่เคยหลีกเลี่ยงภาษีแม้แต่ครั้งเดียว และเน้นว่า แอปเปิล “ผิดหวัง” กับคำพิพากษาที่ออกมา

ขณะที่รัฐบาลไอร์แลนด์ออกแถลงการณ์เพียงว่า “จะปฏิบัติตามคำสั่ง” ของศาล ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบโดยคณะกรรมาธิการต่อต้านการผูกขาดการค้าของอีซีระบุว่า ไอร์แลนด์เคยเรียกเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจากแอปเปิล ที่อัตรา 1% เมื่อปี 2546 เหลือเพียง 0.005% เมื่อปี 2557 แต่ฐานอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลของไอร์แลนด์อยู่ที่ 12.5%.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES