วันนี้ “เดลินิวส์” จึงนำ Kia EV5 Earth Long Range รุ่นรองท็อปค่าตัว 1.599 ล้านบาท มาทดสอบเพื่อพิสูจน์ความสะดวกสบายความคล่องตัวว่าเท็จจริงอย่างไร ด้วยพื้นที่โดยสารที่กว้างขวางให้ความอเนกประสงค์ ผสมผสานลงตัวระหว่างความสะดวกสบายอันโดดเด่น สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นเทคโนโลยีขั้นสูง ไปจนถึงระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบ รถยนต์รุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่โฉบเฉี่ยวท้าทาย ห้องโดยสารกว้างและสบาย พร้อมความอเนกประสงค์ของตัวรถ ทั้งในด้านพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชันต่างๆ ที่ปรับใช้งานได้ตลอดการเดินทาง และระหว่างการพักค้างคืนในแบบ Smart Glamping อาทิ การทดสอบการใช้งานโหมด Vehicle-to-Load (V2L) ของ The Kia EV5 ซึ่งมีแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงสามารถจ่ายพลังงานสำหรับการสร้างแสงสว่าง รวมถึงใช้ต่อพ่วงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายนอกต่างๆ ได้ ในระหว่างการเดินทางและพักแรมในสไตล์ Glamping

The Kia EV5 รุ่น Earth Long Range มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 88.1 กิโลวัตต์/ชั่วโมง และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 160 กิโลวัตต์เช่นเดียวกับ 2 รุ่นแรกในขณะที่ให้ระยะการวิ่งจากพลังงานไฟฟ้าตามมาตรฐาน NEDC ได้ไกล 665 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง อีกทั้งรองรับการชาร์จไฟฟ้าแบบรวดเร็ว 141 kW (ผ่าน DC Fast Charge)

ความสูงระหว่างพื้นรถกับพื้นถนนที่สูง การปรับพื้นที่ภายในใหม่ทั้งหมดนอกเหนือไปจากระบบความปลอดภัยมาตรฐานรุ่นล่าสุดที่มีใน The Kia EV5 ทุกรุ่นย่อยแล้ว รุ่น Earth Long Range ก็ยังมีระบบความปลอดภัยเพิ่มเติม ทั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ทำงานร่วมกับระบบป้องกันการชนขณะถอยหลัง, ระบบป้องกันการชนจากมุมอับสายตาขณะแซง, ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ ระบบสมาร์ท ครูซ คอนโทรล พร้อมสต๊อบ แอนด์ โก รวมไปจนถึงระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร ช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาระยะห่างกับรถยนต์คันหน้าอย่างเหมาะสม ยิ่งไปกว่านี้ยังมีระบบช่วยเหลือเพื่อความปลอดภัยขณะลงจากรถอีกด้วย

ห้องโดยสารกว้างขวางให้บรรยากาศและฟังก์ชันการใช้งานเหมือนห้องนั่งเล่นในบ้านมากกว่าเป็นเพียงห้องโดยสารรถยนต์แบบทั่วไป The Kia EV5 ทุกรุ่นมีพื้นที่วางขาและพิงศีรษะกว้างขวาง รวมถึงระบบเพื่อความบันเทิงและเทคโนโลยีการเชื่อมต่อเต็มรูปแบบ มีกล่องเก็บของที่คอนโซลกลาง หากเป็นรุ่นท็อปจะเป็นที่ใช้อุ่นอาหารและแช่เย็นเครื่องดื่ม หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา เพิ่มความโปร่งโล่งมากขึ้น

เบาะนั่งด้านคนขับปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบนวด เบาะผู้โดยสารตอนหน้าปรับด้วยไฟฟ้า พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังสังเคราะห์แบบ 4 ก้าน ปรับได้ 4 ทิศทาง และแพดเดิลชิฟท์ ให้ความสะดวก หน้าจอแดชบอร์ดขนาด 29.6 นิ้วแบ่งเป็น 3 โซน ประกอบด้วยหน้าจอแสดงผลการขับขี่ 12.3 นิ้ว หน้าจอสัมผัสระบบปรับอากาศ 5.3 นิ้ว และหน้าจออินโฟเทนเมนต์ 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแอนดรอย ออโต้ แอปเปิลคาร์เพลย์แบบไร้สาย แสดงข้อมูลการขับขี่แบบแนวนอนกว้างชัดเจนใช้งานง่ายสามารถสลับเปลี่ยนข้อมูล การตั้งค่า หรือความบันเทิงได้อย่างรวดเร็ว

ด้านฟิลลิ่งการขับอัตราเร่งดีสไตล์รถไฟฟ้า ขับในเมืองคล่องตัวดี ขับสบายมีตัวช่วยให้ใช้ ทั้งระบบแสดงภาพมุมอับสายตา ทั้งซ้ายและขวาตามการเปิดไฟเลี้ยว ช่วงล่างค่อนข้างนุ่มนวล แต่เลือกปรับระดับได้ โดยเฉพาะถ้าใช้งานแบบทั่วๆ ไปนับว่าเป็นรถที่ขับสบายเหมาะกับการใช้งานประจำวัน กับครอบครัวที่ชอบเดินทางออกไปท่องเที่ยว เพราะมีปลั๊กไฟให้เสียบใช้งานไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง ทำอาหาร

สำหรับผู้สนใจไปทดลองขับก่อน เพราะออปชั่นการใช้งานตอบโจทย์แต่ละรุ่นแตกต่างกัน ส่วนสมรรถนะมีให้ใช้เพียงพอกับกำลัง 217 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตัน-เมตร ที่สำคัญเมื่อชาร์จไฟเต็มแล้ววิ่งได้ไกลถึง 665 กิโลเมตร หรือถ้าใช้งานปกติน่าจะวิ่งได้ไกลอยู่.