กำลังเป็นกระแสฮือฮาสนั่นโซเชียลอยู่ในขณะนี้ หลังล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 67 มีการแชร์โพสต์จากผู้ใช้แฟนเพจเฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC หรือ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์” แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้ออกมาเผยภาพเคสผู้ป่วยสาววัย 29 ปี เริ่มมีไข้สูง 40.5 องศาฯ สุดท้ายแพทย์ตรวจเจอกลับพบว่า คนไข้หญิงรายนี้ติดเชื้อแบคทีเดียโคพลาสมา จนทำให้มีอาการหนักกว่าตอนป่วยเป็นโรคโควิด และไข้หวัดใหญ่ แพทย์ชี้ เชื้อไมโคพลาสมาเป็นแบคทีเรียขนาดเล็ก สามารถติดต่อจากคนสู่คน และเป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนและล่าง

โดบหมอมนูญ ระบุข้อความว่า ผู้ป่วยหญิงอายุ 29 ปี เริ่มมีไข้สูง 40.5 องศาเซลเซียส มีอาการปวดหัว ปวดตัว อ่อนเพลีย และไอมาก 2 วัน มาโรงพยาบาลวันที่ 25 สิงหาคม 2567 มีอาการเหนื่อยบ้าง กินอาหารได้น้อย ไม่เจ็บคอ ไม่มีน้ำมูก ไม่สูบบุหรี่ ไม่กินเหล้า ไม่มีโรคประจำตัว แต่เคยป่วยเป็นโรคโควิด 2 ครั้ง และไข้หวัดใหญ่ 1 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว แพทย์ตรวจร่างกาย มีไข้สูง 40.5 องศาเซลเซียส ระดับออกซิเจน 98% ฟังปอดปกติ เอกซเรย์พบว่า ปอดมีฝ้าขาวที่ปอดข้างขวาด้านล่าง และเมื่อแยงจมูกส่งตรวจ PCR รหัสพันธุกรรม 22 สายพันธุ์พบเชื้อแบคทีเรีย Mycoplasma pneumoniae เมื่อเจาะเลือดเม็ดเลือดขาวปกติ

นอกจากนี้ หมอมนูญ ระบุข้อความอีกว่า เมื่อวินิจฉัย พบว่า ปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย “ไมโคพลาสมา Mycoplasma pneumoniae” จึงให้ยาปฏิชีวนะชนิดกิน “azithromycin และ moxifloxacin” จึงทำให้ผู้ป่วยดีขึ้นช้าๆ ไข้ลอยอยู่ 5 วัน กว่าไข้จะลง ต้องให้น้ำเกลือ เพราะกินอาหารได้น้อยมาก และมีอาการไอค่อยๆ ลดลง ไม่เจ็บหน้าอก ไม่เหนื่อย และติดตาม 9 วันต่อมา เมื่อเอกซเรย์ปอด พบว่า ฝ้าขาวด้านล่างดีขึ้นมาก และผู้ป่วยรายนี้อายุยังน้อย ปกติแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัว แต่เมื่อติดเชื้อ Mycoplasma ครั้งนี้นอนรักษาในโรงพยาบาลเป็นระยะเวลา 9 วัน อาการหนักกว่าตอนป่วย เป็นโรคโควิดและไข้หวัดใหญ่เมื่อปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เชื้อไมโคพลาสมาเป็นแบคทีเรียขนาดเล็ก มีอยู่ในธรรมชาติ สามารถติดต่อจากคนสู่คน เป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนและล่าง พบได้ในเด็กโตและผู้ใหญ่ บางคนทำให้เกิดโรคหลอดลมอักเสบ และปอดอักเสบอย่างผู้ป่วยรายนี้ โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน รักษาหายด้วยยาปฏิชีวนะ

ขอบคุณข้อมูล : หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC