ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่  9 ก.ย. (เวลาท้องถื่น) หรือตรงกับ เวลา 00.00 น. วันที่ 10  ก.ย. (เวลาประเทศไทย)  ที่ ที่สำนักงานใหญ่ของ  Apple ในเมืองคูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้มีการจัดงานอีเวนต์ใหญ่ เปิดตัว  iPhone 16 และอุปกรณ์อื่นๆ  ภายใต้ธีมงานที่มีชื่อว่า “It’s Glowtime”

โดยการเปิดตัว iPhone 16  มี  4  รุ่น คือ  iPhone 16   ‌iPhone 16‌ Plus  iPhone 16 Pro และ ‌iPhone 16 Pro‌ Max  

 สำหรับในรุ่น iPhone 16 Pro และ ‌iPhone 16 Pro‌ Max  ถือป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุด โดยมีหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ปุ่มควบคุมกล้องแบบใหม่หมด และใช้ ชิป A18 Pro

ทั้งนี้ ‌iPhone 16 Pro‌ มีหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว  ส่วน ‌iPhone 16 Pro‌ Max มีหน้าจอขนาด 6.9 นิ้ว ซึ่งเป็นหน้าจอ iPhone ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา  ส่วนขอบรอบหน้าจอมีความบางที่สุดในบรรดาอุปกรณ์ Apple ทั้งหมด กรอบผลิตจากไททาเนียมได้รับการเคลือบใหม่และมีสีให้เลือกหลากหลายมากขึ้น ได้แก่ ไททาเนียมสีดำเข้มขึ้น ไททาเนียมสีขาวสว่างขึ้น ไททาเนียมธรรมชาติ และไททาเนียมทะเลทรายใหม่

สำหรับ จอภาพ Super Retina XDR ให้สีสวยสดงดงามพร้อมด้วยเทคโนโลยีการแสดงผลแบบติดตลอดและ ProMotion ช่วยให้ผู้ใช้ทำอะไรๆ ได้มากขึ้น และทั้งสองรุ่นยังมีความทนทานในระดับชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรมด้วยดีไซน์ไทเทเนียมที่แข็งแรงและน้ำหนักเบา รวมถึง Ceramic Shield เจเนอเรชั่นล่าสุดที่มีการผสมสูตรอันล้ำสมัย จึงมีความแข็งแกร่งกว่ากระจกไหนๆ บนสมาร์ทโฟนถึง 2 เท่า

ขณะที่ อุปกรณ์ใหม่ทั้งสองรุ่นที่ถือเป็นรุ่นเรือธง ใช้ ชิป A18 Pro ที่รองรับ Apple Intelligence ซึ่งเร็วกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่า  A18 ใน iPhone 16 และ ‌iPhone 16‌ Plus    ซึ่ง ชิป A18 Pro ผลิตโดยใช้เทคโนโลยี 3nm รุ่นที่ 2 และมี Neural Engine 16 คอร์ใหม่พร้อมแบนด์วิดท์หน่วยความจำเพิ่มขึ้น 17%   รองรับ Apple Intelligence

ซิปรุ่นใหม่นี้ ทำงานเร็วขึ้นถึง 15% เมื่อเทียบกับ A17 Pro    และประหยัดพลังงานมากกว่า A17 Pro ถึง 20% นอกจากนี้ยังรองรับความเร็ว USB-C ที่เร็วขึ้นและการประมวลผลข้อมูลสองเท่าสำหรับการเข้ารหัสวิดีโอ

สำหรับ กล้องใหม่  ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล และอินเทอร์เฟซกล้องที่ปรับใหม่นั้นมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Quad-pixel รุ่นที่ 2 ซึ่งไม่มีความล่าช้าของชัตเตอร์สำหรับภาพถ่าย ProRAW และ HEIF 48 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ยังมีกล้องอัลตราไวด์ มีความละเอียด  48 ล้านพิกเซลเป็นครั้งแรก พร้อมเซ็นเซอร์ Quad-pixel พร้อมออโต้โฟกัส กล้องเทเลโฟโต้ 5x tetraprism ก็มีอยู่ใน ‌iPhone 16 Pro‌ เช่นกัน

‌iPhone 16 Pro‌ รองรับการถ่ายภาพ 4K  ที่ 120 fps ใน HDR เต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นไปได้ด้วยเซ็นเซอร์ที่เร็วขึ้นในกล้อง Fusion 48 เมกะพิกเซล แอปกล้องยังมีการปรับแต่งเสียงอัจฉริยะเพื่อลดเสียงลม สามารถใช้ 4K120 ในโหมดสโลว์โมชั่นหรือวิดีโอ และสามารถปรับแต่งได้หลังจากถ่ายภาพเพื่อเล่นที่ 120, 60, 30 หรือ 24 fps

เพียงแค่ใช้นิ้วเลื่อนเพื่อปรับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้อง อย่างค่าแสงหรือมิติความชัดลึก แล้วสลับไปมาระหว่างเลนส์แต่ละตัว หรือใช้การซูมแบบดิจิทัลเพื่อจัดเฟรมภาพให้เป๊ะอย่างที่ต้องการ

ปุ่มควบคุมกล้องเป็นปุ่มคริสตัลแซฟไฟร์แบบเรียบเฉพาะพร้อมการตอบสนองแบบสัมผัส  การคลิกที่ปุ่มควบคุมกล้องจะเปิดแอปกล้อง การคลิกอีกครั้งจะเป็นการถ่ายภาพ เพื่อบันทึกวิดีโอ นอกจากนี้ Camera Control ยังมีท่าทางสัมผัสที่ช่วยให้แยกแยะระหว่างการคลิกและการกดเบาๆ ได้ การกดเบาๆ จะเผยให้เห็นภาพตัวอย่างใหม่ที่ชัดเจนเพื่อช่วยให้ผู้ใช้โฟกัสไปที่การจัดองค์ประกอบภาพ

และเลื่อนเพื่อปรับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้อง อย่างค่าแสงหรือมิติความชัดลึก แล้วสลับไปมาระหว่างเลนส์แต่ละตัว หรือใช้การซูมแบบดิจิทัลเพื่อจัดเฟรมภาพให้เอย่างที่ต้องการ

ตัวควบคุมกล้อง หรือ Camera Control จะเพิ่มชัตเตอร์แบบสองจังหวะที่ให้คุณล็อคโฟกัสและค่าแสงโดยอัตโนมัติเมื่อกดเบาๆ ก็สามารถจัดเฟรมภาพใหม่ได้โดยที่ตัวแบบไม่หลุดโฟกัส โดย Camera Control จะได้รับการอัปเดตในช่วงปลายปีนี้

นอกจากนี้ ตัวควบคุมกล้อง  จะมี Visual Intelligence ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ของ Apple Intelligence ที่มีเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ ‌iPhone 16‌ เท่านั้น Visual Intelligence ถูกเรียกใช้โดย Camera Control ช่วยให้ผู้ใช้เล็งกล้อง ‌iPhone‌ ไปที่บางสิ่งและดึงรายละเอียดบริบท เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหาร รวมถึงดำเนินการต่างๆ เช่น การกรอกเหตุการณ์ในปฏิทิน

 สำหรับ ไมโครโฟนที่ได้รับการปรับปรุง ‌iPhone 16 Pro‌  ประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านเสียงด้วยไมโครโฟนคุณภาพระดับสตูดิโอ 4 ตัวที่ช่วยให้การบันทึกเสียงมีคุณภาพสูงขึ้น และมีระดับเสียงรบกวนลดลง ได้เสียงที่สมจริงยิ่งกว่า พร้อมด้วยการบันทึกเสียงเชิงมิติพื้นที่ใหม่ที่จะทำให้เสียงในวิดีโอสมจริงยิ่งกว่าเมื่อฟังด้วย AirPods ทั้งยังมีการลดเสียงรบกวนจากลมเพื่อคุณภาพของเสียงที่ชัดเจนยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

สำหรับ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max มีสีแบบไทเทเนียมดำ ไทเทเนียมธรรมชาติ ไทเทเนียมขาว และไทเทเนียมทะเลทราย พร้อมด้วยพื้นที่จัดเก็บข้อมูลความจุ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB 

iPhone 16 Pro ราคา เริ่มต้นที่  39,900 บาท   และ Phone 16 Pro Max เริ่มต้นที่  48,900 บาท สั่งซื้อล่วงหน้า 13 ก.ย. เริ่มตั้งแต่เวลา 19:00 น. และ เริ่มวางจำหน่าย 20 ก.ย. นี้