เมื่อวันที่ 9 ก.ย. กลุ่มพระวินยาธิการพร้อมด้วยอาสาสมัครตำรวจบางบัวทอง ลงพื้นที่ตลาดเช้าหน้าหมู่บ้านบัวทองเคหะ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของพระสงฆ์นอกรีตรูปหนึ่ง ที่ปักหลักบิณฑบาตอยู่หน้าร้านขายอาหาร และมีพฤติกรรมคุกคามพระรูปอื่นๆ ที่มาบิณฑบาตทับเส้นทาง จนมีเรื่องชกต่อยกันเป็นที่เอือมระอาของชาวบ้าน

นอกจากนี้ยังพบว่าพระรูปดังกล่าวไม่ได้จำวัด แต่ไปเช่าห้องพักอาศัยอยู่ในชุมชนอิสลาม ระหว่างที่เจ้าหน้าที่และพระวินยาธิการเข้าตรวจสอบพระรูปดังกล่าว ขณะกำลังยืนรอรับบาตรอยู่หน้าร้านขายอาหาร จึงได้เชิญตัวไปทำการตรวจสอบที่วัดลำโพ

พระครูประโชติจันทสิริ เจ้าอาวาสวัดลำโพ และเป็นเจ้าคณะตำบลบางรักใหญ่ ทำการสอบสวน ทราบชื่อคือพระสมชาย อ่อนอุ่น อายุ 69 ปี ระหว่างสอบสวนพระสมชายได้แสดงอาการขัดขืน พร้อมกับอ้างว่าเรื่องบิณฑบาตวนเป็นแค่เรื่องอาบัติไม่ถึงปาราชิก ตนเป็นแค่พระป่วยที่มาบิณฑบาตเลี้ยงชีพเท่านั้น ไม่ได้ทำผิดร้ายแรง พระวินยาธิการไม่มีสิทธิจับตนเองสึก เพราะตนเป็นพระแท้มีใบสุทธิที่ออกให้โดยเจ้าคณะอำเภอลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา

พระสมชาย อ้างว่า แต่ตนป่วยจากโรคไสยศาสตร์ที่มองไม่เห็น โรงพยาบาลทั่วไปรักษาไม่ได้ ทำให้ต้องไปพักอาศัยอยู่ในห้องเช่าในชุมชนอิสลาม เพื่อให้หมอไสยศาสตร์ทางแขกช่วยรักษา จึงทำให้ตนไม่สามารถกลับไปจำวัดได้เหมือนพระปกติทั่วไป ส่วนเรื่องที่นำอาหารที่มีคนมาใส่บาตรไปแจกจ่ายนั้น เป็นเพราะตนเป็นพระที่มีใจเมตตา เมื่อญาติโยมใส่บาตรทำบุญมาแล้วก็ต้องนำออกไปแจกจ่ายต่อเพื่อเป็นการทำทานให้กับคนอื่นต่อไป

พระวินยาธิการ โต้แย้งว่าจากพฤติกรรมของพระสมชาย มีหลักฐานชัดเจนว่ากระทำผิดวินัยสงฆ์ในหลายข้อ ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับสมณะสงฆ์ที่เป็นอยู่ ทั้งเรื่องการบิณฑบาตวนขายของให้กับแม่ค้าที่รับซื้อ การไม่กลับไปจำวัดเป็นปี ๆ บิณฑบาตรับแต่เงินปัจจัยเพียงอย่างเดียว รวมถึงพฤติกรรมที่ก่อเหตุชกต่อยพระลูกวัดที่ลาดบัวหลวง จนถูกขับไล่ออกจากวัดมาแล้ว ยังมาก่อเหตุทำร้ายพระลูกวัดวัดใหม่คลองเจ๊กอีกครั้ง และยังมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับแม่ค้าในตลาดอีก ด้วยพฤติกรรมดังกล่าวแม้จะเป็นพระที่บวชมาอย่างถูกต้องก็ตาม แต่จากพฤติกรรมที่ครองเพศสมณะไม่เหมาะสม จึงทำเป็นต้องให้สึกขาดจากความเป็นพระ

หลังจากสอบถามและฟังคำชี้แจง ทางพระครูประโชติจันทสิริ เจ้าคณะตำบลบางรักใหญ่และพระวินยาธิการ สรุปความผิดของพระสมชายว่าต้องสึกและขาดจากความเป็นพระ เพราะหากให้ดำรงสมณะเป็นพระอยู่มีแต่จะสร้างความเสื่อมเสียให้กับวงการสงฆ์ แต่พระสมชายไม่ยอมสึก จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง ช่วยทำการเปลื้องจีวรออก แต่พระสมชายกลับดิ้นรนต่อสู้ไม่ยอมสึก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันยื้อยุดจับเปลี่ยนชุดได้อย่างทุลักทุเล ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวอดีตพระสมชายรายนี้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่าถูกจับสึกและขาดจากความเป็นพระ

พระครูสิทธิธรรมนุกูล พระวินยาธิการ กล่าวว่า พฤติกรรมของพระรูปนี้พบว่าถูกขับไล่ออกมาจากวัดลาดบัวหลวงเพราะมีเหตุชกต่อยกับพระลูกวัด จากนั้นก็ไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านคนรู้จักในชุมชนอิสลามโดยไม่ได้กลับไปจำพรรษาอยู่วัดเลย วันนี้จึงต้องเดินทางมาจับพระรูปดังกล่าวสึกจากความเป็นพระ แม้พระรูปดังกล่าวจะดื้อรั้นไม่ยอมสึกก็ตาม เราจึงต้องให้ทางเจ้าคณะตำบลตัดสินใจ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้พระศาสนาเสื่อมเสียและมัวหมองจากพฤติกรรมของพระรูปนี้อีก