สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงแอลเจียร์ ประเทศแอลจีเรีย เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ว่า นายโมฮาเหม็ด ชาร์ฟี หัวหน้าสำนักงานการเลือกตั้งอิสระแห่งชาติ (เอเอ็นไออี) ของแอลจีเรีย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ชาวแอลจีเรียมากกว่า 5.3 ล้านคน ลงคะแนนเสียงให้กับเทบบูน ซึ่งคิดเป็น 94.65% ของคะแนนเสียงทั้งหมด

เทบบูน วัย 78 ปี ได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลาม ให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแอลจีเรียสมัยที่สอง ต่อไปอีกเป็นเวลา 5 ปี ขณะที่แคนดิเดตคู่แข่งของเขา ได้แก่ นายอับเดลาอาลี ฮัสซานี วัย 57 ปี และนายยูเซฟ อาอูชิเช วัย 41 ปี ได้รับคะแนนเสียงเพียง 3.17% และ 2.16% ตามลำดับ เท่านั้น

แม้มีการคาดการณ์ว่า เทบบูนจะได้รับเลือกตั้งเป็นผู้นำแอลจีเรียสมัยที่สอง “อย่างแน่นอน” แต่เป้าหมายหลักของเขาคือ การเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หลังแอลจีเรียมีอัตราการงดออกเสียงในการเลือกตั้ง มากกว่า 60% ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อปี 2562

ในปีนั้น เทบบูนขึ้นเป็นประธานาธิบดีแอลจีเรีย ท่ามกลางการเลือกตั้งที่ถูกบอยคอตอย่างกว้างขวาง และการประท้วงของกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยที่มีชื่อว่า “ฮิรัก” ซึ่งในเวลาต่อมา การประท้วงก็สิ้นสุดลงภายใต้การดำรงตำแหน่งของเทบบูน เนื่องจากการเพิ่มกำลังตำรวจ และผู้ประท้วงหลายร้อยคนถูกจำคุก

อย่างไรก็ตาม ทีมรณรงค์หาเสียงของฮัสซานี กล่าวว่า ประณามผลการเลือกตั้งข้างต้นว่า มีตัวเลขที่ “แปลกประหลาด” และเป็นความพยายามที่จะ “ขยายผลการเลือกตั้ง” พร้อมกับชี้ว่า ผลการเลือกตั้งที่เผยแพร่โดยเอเอ็นไออี บ่อนทำลายการเลือกตั้งของแอลจีเรีย และทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสื่อมเสีย.

เครดิตภาพ : AFP