กรณีพระวินัยธรบัญชา (ไสว) ปุญญธโร อายุ 77 ปี เจ้าอาวาสวัดเอี่ยมประชามิตร (วัดแหลมฟ้าผ่า) หมู่ที่ 6 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ถูกมือดีสาดน้ำกรดใส่ขณะเดินบิณฑบาตจนได้รับบาดเจ็บ เดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้วที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ เหตุเกิดห่างวัดประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ชายถังเหลืองน้ำกรดสาดเจ้าอาวาสวัดดัง ตร.รู้เป็นใคร! เร่งล่าตัวเค้นปมบาป
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ประยูร ปัตตุลี รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ท.สพัศ ปราการพิทักษ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.พระสมุทรเจดีย์ นิมนต์ พระวินัยธรบัญชา พร้อมนายธนเดช สู่ความดี อายุ 57 ปี ตัวแทนกรรมการวัด (ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.แหลมฟ้าผ่า) มาดูตัว นายชาลี (กล้วย) สมหวัง อายุ 44 ปี 1 ใน 3 ผู้ก่อเหตุที่ร่วมกันก่อเหตุ หลังสอบสวนเบื้องต้นให้การรับภาคเสธว่าได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ไม่ได้ร่วมก่อนเหตุกับชาวเมียนมา และคนไทย อีก 2 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ จากนั้นทางตำรวจจะส่งตัวผู้ต้องหาไปศาลจังหวัดสมุทรปราการเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา นายชาลี ผู้ต้องหาได้ก้มกราบขอขมากับทางเจ้าอาวาส เป็นการสำนึกผิดที่ก่อเหตุทำลงไป รวมทั้งได้กล่าวขอโทษสังคมที่ได้ก่อเหตุลงไปอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนสาเหตุในการเกิดเหตุในครั้งนี้ โดยทางเจ้าอาวาสได้เทศนาตักเตือนและเมตตาให้อภัยผู้ต้องหา ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุอีก 2 คนคือ นายเล็ก อายุ 45 ปี สัญชาติเมียนมา และนายไนท์ อายุ 35 ปี คนไทย ที่ยังหลบหนีอยู่ ซึ่งทั้งสองคนนี้มีอาชีพรับจ้างทั่วไปและอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ทางตำรวจจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว และหากสอบสวนเพิ่มเติมพบมีผู้เกี่ยวข้องหรือมีผู้ว่าจ้าง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด
สอบสวนนายชาลี ให้การภาคเสธอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำร้ายเจ้าอาวาส แต่รู้เห็นกับเหตุการณ์ในครั้งนี้และรู้จักกับผู้ก่อเหตุทั้งสอง โดยวันเกิดเหตุตนกำลังขี่รถจยย.ไปหาคนรู้จักเพื่อติดต่อซ่อมและปรับปรุงบ้าน เพราะตนทำงานรับเหมาก่อสร้าง ขณะขี่รถไประหว่างทางก็ได้มาพบ นายไนท์และนายเล็ก จอดรถพูดคุยกันอยู่บริเวณปากซอยวัดแหลมฟ้าผ่า ตนได้แวะเข้าไปทัก หลังจากนั้นได้ขี่รถไปติดต่อลูกค้า ก่อนเกิดการสาดน้ำกรดใส่พระ ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ไม่ได้ถามว่าไปสาดน้ำกรดใส่พระเพราะอะไร เพราะตอนนั้นตนอยู่บ้านพี่ที่รู้จัก และขณะที่นายเล็กสาดน้ำกรดใส่ ตนไม่เห็นเหตุการณ์ และยืนยันว่าตนไม่เคยมีเรื่องกับพระมาก่อน ยืนยันไม่ได้สาดและไม่รู้ว่าน้ำชนิดใดคิดว่าน้ำประปา หลังจากจบเหตุการณ์ตรงนั้นแล้วตนเองได้กลับบ้าน สรุปเหตุการณ์ที่สาดน้ำกรดท่านเจ้าอาวาสในครั้งนี้ตนยอมรับว่าอยู่ในเหตุการณ์ด้วยแต่ไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุและไม่รู้เรื่องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน พระวินัยธรบัญชา กล่าวว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามคนที่ก่อเหตุมาให้ได้ หากพิการหรือตาบอดขึ้นมาจะทำอย่างไร อาตมาอยากจะรู้ว่าเขาทำเพื่ออะไรซึ่งตอนนี้ได้ตัวผู้ร่วมขบวนการแล้วยังดีกว่าไม่รู้อะไรเลย อยากให้ผู้ร่วมก่อเหตุมีความสำนึกว่าไม่น่าจะมาก่อเหตุและทำแบบนี้จะลงนรกและตัวเขาเองจะทำมาหากินลำบากต้องเอาดอกไม้ธูปเทียนมาขอขมา อันนี้เพียงแค่กราบจึงจะพ้นจากเวรกรรมต้องมีธูปเทียนแพต้องมีการทำพิธีใหญ่ถึงจะพ้นเวรกรรมได้หากไม่ทำพิธีจะไม่หลุดพ้นเวรกรรม เนื่องจากทำให้อาตมาเจ็บป่วยสาหัสโชคดีที่ยังไม่ถึงขั้นพิการ หากถึงขั้นตาบอดทำอะไรไม่ได้แล้วหากินไม่ได้จะบวชหรือเดินบิณฑบาตไม่ได้