สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ว่า ผลสำรวจความคิดเห็นผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งชาวอเมริกัน จัดทำโดยเดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส ร่วมกับวิทยาลัยเซียนา ปรากฏว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีและแคนดิเดตของพรรครีพับลิกัน มีคะแนนนิยมนำเหนือนางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีคนปัจจุบันและตัวแทนพรรคเดโมแครต 48% ต่อ 47%


ขณะที่เมื่อวิเคราะห์เฉพาะกลุ่มรัฐที่เป็นสวิงสเตต ซึ่งถือเป็นตัวตัดสินการเลือกตั้งประธานาธิบดีทุกครั้ง พบว่า แฮร์ริสมีคะแนนนิยมนำทรัมป์เล็กน้อย ที่รัฐวิสคอนซิน รัฐมิชิแกน และรัฐเพนซิลเวเนีย และทั้งคู่มีคะแนนนิยมเสมอกัน ที่รัฐเนวาดา รัฐจอร์เจีย รัฐนอร์ทแคโรไลนา และรัฐแอริโซนา


ด้านโพลของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสร่วมกับสำนักวิจัยยูกอฟ ซึ่งสำรวจกลุ่มตัวอย่างในรัฐเพนซิลเวเนีย รัฐมิชิแกน และรัฐวิสคอนซิน พบว่าแฮร์ริสมีคะแนนนิยมนำทรัมป์ เฉลี่ย 1-2% เท่านั้น


อย่างไรก็ตาม เมื่อคำถามของโพลเจาะลึกไปที่นโยบาย พบว่า กลุ่มตัวอย่าง 58% ในรัฐมิชิแกน มองว่า ทรัมป์จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ดีกว่าแฮร์ริส ส่วน 53% ของกลุ่มตัวอย่างที่รัฐเพนซิลเวเนีย เชื่อว่า เศรษฐกิจจะดีขึ้นโดยเฉพาะกับกลุ่มชนชั้นกลาง หากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง โดยแฮร์ริสได้รับเสียงสนับสนุนจากคำถามนี้เพียง 27%


ทั้งนี้ โพลดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ ก่อนการดีเบตในวันที่ 10 ก.ย. นี้ ซึ่งจะเป็นการประชันวิสัยทัศน์ครั้งแรกและครั้งเดียว และระหว่างทรัมป์กับแฮร์ริส.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES